ปั่นจักรยานสูดออกซิเจนให้ปอด กับทริปเที่ยววันหยุดแบบชิวๆ ที่บางกระเจ้า สมุทรปราการ

พอถึงวันหยุดอยู่นิ่งไม่ได้ต้องหาทริปเที่ยวทุกที หยุดวันเดียวแบบนี้จะไปเที่ยวที่ไหนดี จะช็อปปิ้ง เที่ยวห้างก็ไปบ่อยแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศไปปั่นจักรยานสูดอากาศดีดี๊ที่ “บางกระเจ้า”  สมุทรปราการ ดีกว่า ที่นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพเลยเชียวน่ะ หลังจากได้สถานที่ไปแล้วเราก็ลุยกันเลย

เริ่มเริ่มเดินทางประมาณ 7 โมงเศษๆ เดินทางโดยรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีบางนาจากนั้นต่อแท็กซี่เพื่อไปขึ้นเรือข้ามฟากที่วัดบางนานอก

ขึ้นไปนั่งบนรถแท็กซี่ได้ไม่นานก็ถึงวันบางนานอก จ่ายค่าแท็กซี่ 50 บาท

เดินเข้าไปในวัดก็จะเห็นท่าเรือเลย จริงๆตอนแรก ก็นึกว่าจะต้องเดินไกล ค่าเรือก็คนละ 4 บาท เรือข้ามพากที่นี้สามารถนำรถมอร์เตอร์ไซต์ขึ้นเรือได้ด้วย

หู๊…..กำลังตืนเต้น

เรือข้ามฟากเข้ามายังท่าวัดบางน้ำผึ่งนอก หลังจากลงเรือเราก็มองหาร้านเช้าจักรยาน จะเอาร้านไหนดีมีหลายร้าน เราเลือกร้านที่อยู่ทางขวาของท่าเรือ เดินออกจากท่าเรือเลี้ยวข้าม ร้านชื่อว่า แดง & แหม่ม ราคาจักรยานคันล่ะ 50 บาท ถ้าจะเช่าจักรยากก็เอาบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วนน่ะ

ทางร้านจะมีแผนที่ให้และแนะนำเส้นทางสำหรับนักปั่นหน้าใหม่ ดูจากแผ่นที่แล้วถ้าจะปั่นรอบคุ้งคงไม่ไหวเพราะระยะทางไม่ใช้ใกล้ๆ เราเลยเลือกจะที่เราจะไปก่อนเลย

ดูจากแผนที่เราว่างแผนกันว่าจะไปที่สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์กันสอน เราดูระยะทางจาก google ประมาณเกือบ 5 กิโลเมตร สำหรับคนที่ไม่เคยปั่นจักรยานไกลขนาดนั้นก็ต้องมีหยุดคิดกันบาง แต่ถ้าใครไม่อยากปั่นจักรยานก็ใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซต์ได้เลย

ส่วนเราไม่รอช้าไกลแค่ไหนก็ต้องปั่นจักรยานไปเพราะตั้งใจมาแล้ว ลุยเลยยยยย

ปั่นไปเรื่อยๆ ผ่านบ้าน ผ่านชุมชน ผ่านสวน ไกลออกไปเรื่อยๆ จนยากที่จะถอยหลังกลับไปคืนจักรยานแล้ว เอิ๊กๆ วันนี้บรรยากาศช่วงเช้าที่นี้ดีมากๆ เย็นสบายๆ อากาศแบบนี้ปั่น 10 กิโล ก็ยังไหว ระหว่างทางอาจโดยซุ่มโจมตีจากน้องหมาเจ้าถิ่นอยู่เป็นระยะ แต่ไม่ต้องกังวลไป เขาแค่เดินตาม และแค่วิ่งเข้ามาทักทายเราเท่านั้นไม่ต้องกลัวน่ะ ปั่นช้าๆ น่ะเดี๋ยวเขาวิ่งตามเราจะตกใจรถล้มได้

ระหว่างทางมีป้ายบอกทางให้สังเหตุให้ดี จะได้ไม่ไปผิดทาง ถ้าไม่แน่ในจุดให้ให้ถามคนพื้นที่แถวนั้นได้เลย คนที่นี้เขาน่ารักและใจดีทุกคน

เราปั่นมาได้สัก 20 นาที ก็ป้ายบอกทาง สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ อีก 2 กิโลเมตร อีกไม่ไกลจะถึงแล้ว จะบอกว่าถ้าใครเหนื่อย ระหว่างทางจะมีร้านอาหาร ร้านนม ร้านกาแฟ อยู่แวะพักก่อนได้

ก่อนถึงสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์จะเจอพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย แวะที่นี้ก่อนเลยทางผ่านพอดี

ใครที่ชอบปลากัด ต้องแวะเข้ามาดูเลย ความสวยงามของปลากัดสายพันธุ์ต่างๆ จัดแสดงไว้ให้ดูเพียบ

ที่นี้ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ปลากัดให้ดูน่ะ สถานที่ภายในบรรยากาศร่มรื่น มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุดเลย

ดูเหมือนจะเป็นของเด็กๆ เค้านั่งเลยกัน เห็นแล้วคิดถึงสมัยเป็นเด็ก ย้อนวันวานไปนั่งซะเลย ดีน่ะ ไม่พัง

เกิดไม่ทันสามล้อปั่น เห็นแล้วตื่นเต้นอยากไปนั่ง

ดูปลากัดถ่ายรูปกันพอใจแล้วไปกันต่อเลยดีกว่า ตอนนี้ก็ประมาณ 9 ครึ่งแล้วอากาศเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นนิดๆ แล้ว แต่ก็มีลมเย็นๆ พัดเบาๆ ให้ชื่นใจอยู่

สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยปั่นจักรยานมาประมาณ 5 นาทีก็ถึง

  

ทางเข้าสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์เป็นเนินสูงถ้าแรงไม่พอก็เข็นขึ้นไปเถอะ อีกอย่างขึ้นเนินต้องใช้กำลังมากอาจทำให้โซ่รถจักรยานเราตกได้

ถึงแล้วบรรยากาศภายในร่มรื่นมาก ยิ่งถ้าเรามาถึงเช้าๆ ก็กว่านี้น่ะ อากาศจะดีมาก จริงๆ ถ้าใครไม่อยากปั่นจักรยานจากท่าเรือมาก็สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซต์มาแล้วมาเช่าจักรยานหน้าสวนได้น่ะ จะได้ประหยัดเวลา หรือใครที่ขับรถมาที่สวนมีที่จอรถอยู่ด้านหน้าทางเข้าเลย

ภายในค่อนข้างกว้างและมีสถานที่สำคัญๆ หลายจุด จะไปที่ไหนก็ดูที่ป้ายบอกทางแล้วลุยเลย

สะพานไม้จะนี้คนจะแวะถ่ายรูปกันเยอะ เราเลยจอดจักรยานแล้วลงไปเก็บภาพไว้สักหน่อย

หน้าทางเข้าไปยังสะพานไม้มีที่จอดจักรยานเห็นว่าวิวดีเลยถ่ายไว้สักรูป

พร้อมแล้วก็ลุยกันต่อเลยตอนนี้เหมือยังไม่พร้อม

เอาใหม่ๆ พร้อมแล้วลุยกันต่อเลย สู้……….

ขับจักรยานชมวิวไปเรื่อยๆ ต้องบอกเลยว่าในสวนวิวดี อากาศดีมาก เหมาะแก่การมาปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเช้าจริงๆ

ในสวนมีหอดูนก และจุดนี้เป็นจุดที่คนจะเข้าไปถ่ายรูปกัน ถือว่าเป็นจุดที่คนรอถ่ายรูปกันเยอะ

ภาพแนวนี้เคยเห็นใช่ไหมภาพนี้เป็นภาพจากเว็บไซต์ Pantip.com ของคุณ ศูนย์จุดสามมิล เราจะขึ้นไปถ่ายแต่คิวยาวมาก และขึ้นไปข้างบนแล้วดูหวิวๆ กลัวกล้องตกแล้วไม่ถ่ายดีกว่า 555

ดูบรรยากาศด้านบน กว่าเขาจะได้ภาพนี้ก็สักพักน่ะครับ ต้องยืนส่องๆ ลงไปข้างล่าง ถ้ากลัวความสูงนี้คงไม่ได้ภาพมุมนี้แน่นอน

คนด้านล่างจัดท่ารอ คนด้านบนสั่งการ ต้องทำงานกันเป็นทีมครับ

มองจากข้างล่างดูเหมือนไม่สูงน่ะ แต่พอขึ้นไปข้างบนแล้วมองลงมาก็รู้สึกหวิวๆ อยู่เหมือนกัน แต่ไม่สูงมากน่ะต่ำกว่ากระโดดหอลูกเสือเยอะ

อยู่รอนานไม่ได้เรามีโปรแกรมไปหลายที่ เดินทางกันต่อเลย ปั่นไปหาทางออกไม่เจอ เหมือนปั่นป่าลึกยังไงไม่รู้ จุดที่เราปั่นเข้ามานั้นยังไมมีทางลาดยาด อารมณ์เหมือนปั่นจักรยานเข้าบ้านที่ต่างจังหวัดเลย

โปรแกรมต่อไปเราว่าจะเดินทางไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งออกจากสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์เลี้ยวซ้ายบอกทางเลย ระยะทางจากจากสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งประมาณเกือบๆ 4 กิโลเมตร

ไม่ต้องกลัวหลงทางครับมีเพื่อนร่วมทางเยอะ แต่ตอนนี้อากาศร้อนแล้ว ไม่ต้องรีบครับเดี๋ยวจะเหนื่อย ปั่นกินลมชมวิวกันไปเรื่อยๆ ช่วงก่อนถึงตลาดน้ำรถค่อนข้างเยอะ ยังไงก็ระมัดระวังกันด้วยน่ะครับ อาจเป็นเพราะวันนี้เป็นอาทิตย์คนมาเที่ยวกันเยอะ

เรามาถึงตลาดประมาณเกือบ 11 โมงใช้เวลาในการเดินทางนานนิดหน่อยเพราะวันนี้รถเยอะ ทางเข้าตลาดน้ำมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่เห็นวันนี้รถเข้าด้านหน้าเยอะเราเลยตัดสินใจเข้าด้านหลัง แต่ด้านหลังหาที่จดจักรยานยากน่ะ       ส่วนใหญ่เป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ ต้องเอาจักรยานไปจอดไวแถวๆ ต้นไม้ ข้างๆทาง กลัวจักรยานหายเหมือนกัน

มีของฝากน่ารักๆ ขายด้วย ใครสนใจก็เลือกซื้อเลือกชมกันได้เลย

ภายในตลาดมีของขายมากมาย ทั้งเสื้อผ้า ของกินของใช้ ขนมนมเนย ให้ได้เลือกซื้อกัน

เดินวนๆ อยู่ในตลาดสักพัก เห็นของกินมากมายก็เริ่มมีการการหิวล่ะ ปั่นจักรยานกันมาตั้งแต่เช้า ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง กองทัพต้องเดินทางด้วยท้องเรื่องกินขาดไม่ได้

ด้วยความเหนื่อยมากอร่อยหรือไม่อร่อยไม่รู้กินได้หมด เหนื่อยๆ แบบนี้อร่อยทุกอย่าง

ส้มตำถือว่าเป็นเมนูคลายร้อน แก้ลมแดดได้เป็นอย่างดี ที่เห็นนี้เป็นส้มตำทอดน่ะ

อิ่มแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อ

เดินออกจากตลาดไปเจอไอติมใส่กะลามะพร้าวเลยต้องลอง ร้านอยู่แถวๆ ตรงทางออกด้านหลังตลาด

เจอมะขามป้อมแช่อิมลองชิมแล้วอร่อยมาก

ก่อนกลับใครอยากยิ่งหนังสติก ดวลความแม่นเชิญเลย


โปรแกรมต่อไปเราจะเดินทางไปบ้านธูปหอม โดยทางเข้าไปยังบ้านธูปหอมจะอยู่ทางด้านหลังของตลาดน้ำ แถวๆ ที่จอดมอเตอร์ไซต์ จะเป็นทางเล็กๆ มีรั่วกันสีเหลือง มีป้ายระบบว่าไปบ้านธูปหอม เส้นทางไปบ้านธูปหอมเป็นทางเล็กๆ บางจุดจะไม่มีรั่วสีเหลืองกันทางฝังซ้าย และอาจมีรถจักรยาน มอเตอร์ไซต์ และคนเดิน สวนไปมาตลอดทั้งทางแนะนำให้ขับกันอย่างระมัดระวัง และแบ่งปันทางให้เพื่อนร่วมทางที่ขับสวนมาด้วย

ถึงแล้วบ้านธูปหอมสมุนไพร แต่วันนี้ดูเหมือนจะไม่เปิด เสียใจที่สุด…..ไม่เป็นไรโอกาสหน้าเจอกันแน่นอน

เราปั่นจักรยานเพื่อหาทางกลับแต่กับพบป้ายบอกทางว่ามีทางไป บางกอก ทรี เฮาส์ เคยอ่านคุ้นๆ ว่าที่นี้เป็นที่พักริมน้ำที่เป็นบ้านหลังเล็กท่ามกลางต้นไม้สีเขียว ว่าแล้วก็ต้องลองไปดู

ถึงแล้วบรรยากาศตรงนี้เหมาะแก่การมาพักผ่อนมาก ที่พักติดริมน้ำบรรยากาศนี้ดีมาก อบอุ่นไปด้วยต้นไม้สีเขียวที่โอบล้อมไว้

มีร้านอาหารด้วยครับ สะดุดกับโคมไฟกระบอกไม่ไผ่บนเพดาน ที่ความเรียบ เป็นดีไซน์ของห้องอาหารที่เจ๋งมาก นี้ถ้าตอนกลางคืนเปิดจะสวยและได้บรรยากาศสำหรับมาพกผ่อนมาก

ที่นี้เราไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปสักเท่าไร เราไม่ได้เข้ามาพักและไม่ได้เข้ามาสั่งอาหาร เกรงใจพนักงานเห็นว่ามีคนเข้ามากันเยอะ ถ้าใครอยากรู้จักที่นี้ให้มากขึ้นลองเข้า google แล้วค้นหาคำว่า “บางกอก ทรี เฮาส์ (Bangkok Tree House )” ดูสิครับ

เราอยู่ที่นี้ได้แปปเดียวเราก็ปั่นจักรยานกลับไปยังวัดบางน้ำผึ่งนอก เพื่อนำจักรยานไปคืน ปั่นต่อไปไม่ได้แล้วอากาศเริ่มร้อนมากๆ

นำจักรยานไปคืนเสร็จก็รับบัตรประชนที่แลกไว้กลับด้วยน่ะครับ นี้ร้านเช่าจักรยานเค้ามีบริการนั่งเรือข้ามฝากกลับฟรี โดยทางร้านจะออกคูปองให้แล้วเอาไปยื่นตรงช่องจ่ายเงินที่ท่าเรือได้เลย

สรุปการเดินทาง

จริงแล้วนี้บางกระเจ้าช่วงเช้าอากาศดีมากๆ อากาศที่นี้เย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินทางมาพักผ่อนเป็นอย่างมาก ถ้าใครจะเดินทางมาแนะนำให้มาตั้งแต่เช้าหน่อย สักประมาณ 7 โมงหรือว่าจะเช้ากว่านี้นิดหน่อยก็ได้ เพราะถ้าสายมากๆ หรือมาช่วงเที่ยงๆ อากาศจะร้อนสักนิด ถ้าใครร่างกายพร้อมก็ไม่มีปัญหา ส่วนใครไม่พร้อมก็ใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์ดีกว่า

รับรองได้ว่าบรรยากาศช่วงเช้าที่นี้ใครมาสัมผัสจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน