3 วัน 2 คืน ฝ่าโควิดพิชิตเส้นทางในฝัน : ขุนแปะ – กิ่วแม่ปาน | เชียงใหม่

ปี 2020 คงจะเป็นปีที่นักเดินทางทุกคนอึดอัดกันมากเพราะว่ามีโรคโควิดระบาดหนักกันไปทั่วโลก พอสถานการณ์คลี่คลายเริ่มออกเดินทางในประเทศกันได้บ้าง สมาชิกก็ไม่รอช้าที่จะเอาแพลนที่ตัวเองมีมาชักชวนกัน คุยกันอยู่นานสองนานจนปักหมุดกันได้ที่ ขุนแปะ – กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ โดยออกเดินทางกันช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน

ครั้งนี้ขาไปเราแยกกันเดินทางตามสะดวกของเวลาเลิกงานของแต่ละคน โดยมีทั้งทีมรถทัวร์และทีมรถไฟ ทางทีมรถทัวร์ไปถึงก่อนเลยนัดเจอพร้อมหน้าพร้อมตากันที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ทีเดียว อ้อ! รอบนี้เพื่อความสะดวกสบาย เพราะมีสมาชิกกันถึง 6 คน เราเลยเหมารถแดงเที่ยวกันทั้งทริปเลย

รอไม่นานสมาชิกทีมรถไฟก็มาถึง มองๆแล้วคนมาเชียงใหม่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย

หลังจากพร้อมหน้าพร้อมตาก็เดินขึ้นรถที่เช่าไว้ได้เลย พี่บอลคนขับรถของเรามาแสตนบายรออยู่หน้าสถานีรถไฟเรียบร้อยแล้ว พูดคุยกันนิดหน่อยตกลงว่าไปหาข้าวกินกันก่อนแล้วค่อยเริ่มเที่ยว

ที่แรกเริ่มกันที่วัดเกตการาม กราบพระธาตุเจดีย์เกษแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีคนเกิดปีจอ

ต่อกันที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดที่ประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) วัดประจำปีคนเกิดปีมะโรง

ขับรถออกจากตัวเมืองมานิดหน่อย ต่อกันที่วัดพระธาตุดอยคำ กราบขอพรหลวงพ่อทันใจ เป็นวัดที่กำลังนิยมในหมู่ชาวโซเชียลเลย ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ดั่งใจ ดูจากกองพวงมะลิที่คนนำมาถวายแล้วก็น่าเชื่ออยู่ ส่วนตัวก็หวังว่าจะได้มีโอกาสกลับมากราบอีกสักครั้ง

อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ขากลับจากวัดพระธาตุดอยคำเลยแวะร้านไทย-เดนมาร์ก คาเฟ่น่ารักๆริมทาง ถือว่าได้นั่งตากแอร์ดื่มเครื่องดื่มดับร้อนสักพัก

หลังจากนั้นก็ตรงเข้าสู่อำเภอจอมทอง แวะวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร กราบพระบรมธาตุเจดีย์ พระธาตุประจำปีคนเกิดปีชวด วัดกว้างขวาง สวยงาม มีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ให้เข้าชมฟรีด้วย

พอเสร็จจากไหว้พระก็ตรงเข้าที่พักที่ขุนแปะกันเลย คืนนี้เราพักกันที่บ้านไผ่โฮมสเตย์ พี่บอลคนขับรถแนะนำดีมาก ว่าทางจะเป็นยังไง ถ้าเมารถง่ายก็ให้กินยา ถ้ายังไม่หิวมากพี่เค้าก็แนะนำให้ไปกินข้าวข้างบน เพราะกลัวปล่อยทิ้งระหว่างทาง (แต่ทางจริง ๆ ทางมันก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นนะ สบายๆ)

ทางเข้าที่พักถนนลาดยางดีตลอดทาง ไต่ขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ จนถึงโครงการหลวง หลังจากนั้นก็จะเป็นถนนลูกรังที่ทำเอาตัวโยกพอสมควร ที่พักเป็นกระท่อมกลางนา ห้องน้ำอยู่ด้านนอกติดกับตัวกระท่อม (มีฝักบัว ชักโครก สายชำระให้อย่างดี) มีเปลให้ทุกหลัง หลังที่ติดลำธารจะมีชิงช้าให้นั่งเล่นน้ำ ที่พักไม่มีไฟฟ้า (จะมีหลอดไฟแบบถือให้ไว้ส่องทางตอนกลางคืน) มืดสนิทและน้ำเย็นเจี๊ยบ มีอาหารเย็นและอาหารเช้าให้ เน้นไปที่ผักและไข่แต่ขอเติมได้ตลอด และด้วยความที่มืดสนิทนี้ ทำให้กลางคืนดาวสวยมาก มากเกินบรรยาย ระยิบระยับเต็มท้องฟ้าไปหมด เสียดายที่กล้องมือถือจับภาพมาไม่ได้

เช้าวันต่อมาที่พักพามาชมพระอาทิตย์ขึ้นไม่ไกลจากที่พักมาก แต่ถ้าอยากไปดอยที่เป็นจุดไฮไลท์ก็แจ้งที่พักได้ (ค่าใช้จ่ายแยกต่างหาก) เอาจริง ๆ แค่จุดนี้ก็สวยแล้ว มองเห็นทิวเขา มีดอกบัวตองบานเต็มดอย มีแมวคอยป่วนอยู่ตัวนึงด้วย

กลับที่พักมาเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว แล้วไปต่อกันที่สวนไฮเดรนเยีย ที่เค้าเคลมว่าเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตอนนี้ ซึ่งพอไปถึงก็ใหญ่และกว้างมากจริง ๆ แต่ทางไปก็คือโฟวิลของชาวบ้านเท่านั้น ตรงจุดนี้คือทางโหดจริง

ถ่ายรูปกันจนหนำใจก็กลับเข้าที่พัก กินข้าวเช้า เก็บข้าวของ คิดไว้ว่าจะมาซ้ำอีกแน่นอน น้อง ๆที่ดูแลที่พักดูแลดีมาก ๆ โบกมือบ๊ายบายก็มุ่งหน้าขึ้นดอยอินทนนท์ แวะจุดแรกกันที่น้ำตกแม่ยะ สวยงาม ยิ่งใหญ่ อลังการสมคำร่ำลือ

หลังจากนั้นพี่บอลพาแวะกินข้าวกันที่น้ำตกแม่กลาง นั่งเล่นนอนเล่นกันสักพักก็ไปต่อ ราคาอาหารไม่ได้แพงเวอร์ แดดแรงแต่อากาศก็ไม่ได้ร้อน

ไปแวะเช็คอินที่น้ำตกวชิรธาร อยู่นานไม่ได้เปียก แล้วก็มุ่งตรงเข้าสู่ที่พักเลย คืนนี้พักที่บ้านแม่กลางหลวงฮิลล์ บ้านเป็นหลังห้องน้ำในตัว มีฝักบัว ชักโครก สายชำระ และเครื่องทำน้ำอุ่น

เช้าถัดมาตื่นแต่เช้ามืดมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่วันนี้พระอาทิตย์ขี้อายมาแค่แสงรำไรไม่โผล่หน้ามาให้เห็น แต่ก็แลกกับการเห็นดาวตก 1 ดวง ตื่นเต้นกันใหญ่

หลังจากนั้นเลยตัดสินใจเดินเข้ากิ่วแม่ปานกันช่วง 06.40 น. ทางเดินดีไม่เละเทะ เป็นบันไดขึ้นลงขึ้นลงตลอดทาง ช่วงแรกจะเป็นป่าทึบ เดินจนหอบแฮกๆไปหลายยก ก็จะออกสู่โลกภายนอกที่เห็นภูเขาเห็นวิวที่สวยงาม ถือเป็นจุดไฮไลท์ของกิ่วแม่ปาน

ขากลับจะเดินย้อนกลับทางเดิมก็ได้ หรือจะเดินเลาะไหล่เขาอ้อมไปอีกทางก็ได้ ซึ่งไกด์ของเราแนะนำว่า ไหน ๆ ก็มาแล้วเดินอ้อมไปดีกว่า มีอีกหลายจุดให้ชมด้วย พวกเราก็เลยจัดไปตามไกด์แนะนำ

ออกจากกิ่วแม่ปานนั่งรถมาต่อกันที่พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ ไม่ได้เดินเยอะมากนัก เพราะว่าเริ่มเหนื่อย หิว และง่วง

หลังจากนั้นรีบกลับไปเก็บข้าวของ เช็คเอาท์ออกจากที่พัก แล้วไปต่อกันที่สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ แวะดื่มกาแฟ เดินชมดอกไม้ใบหญ้ากันนิดๆหน่อยๆ

เสร็จแล้วเดินทางกลับเข้าตัวเมือง กินข้าวร้านเฮือนเพ็ญและไปซื้อของฝากที่ตลาดวโรรส แล้วก็เดินทางไปสนามบินเตรียมตัวกลับกรุงเทพ

ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่พักขุนแปะ : บ้านไผ่โฮมสเตย์ https://www.facebook.com/BannphaiHomestay  กระท่อมกลางนาที่แท้จริง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ แต่น้อง ๆ ดูแลดี คุยเก่ง ธรรมชาติล้วน ๆ ไปนอนดูดาวสักคืนก็คุ้มแล้ว

ที่พักดอยอิทนนท์ : บ้านแม่กลางหลวงฮิลส์ https://www.facebook.com/MaeKlangLuangHill สภาพที่พักดีวิวสวย แต่ไม่ค่อยประทับใจการบริการเท่าไหร่

เช่ารถแดงพร้อมคนขับ : https://m.facebook.com/Chiamairedcar/?_rdr  ได้คิวคนขับชื่อพี่บอล บริการดีมาก พูดจาสุภาพ แนะนำให้หมดทุกอย่าง พาไปตามแพลนที่ส่งให้ทั้งหมดไม่อิดออด คอยเดินถ่ายรูปให้ตลอด แล้วราคาถูกกว่าเจ้าอื่นมาก ๆ แนะนำเลย สุดท้ายแล้วก็ต้องขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ ร่วมทริปทุกคนที่ช่วยสานฝันให้เส้นทางในฝันเกิดขึ้นจริง รักษาตัวให้รอดจากโควิดแล้วเจอกันใหม่ทิปหน้านะคะ

เรียบเรียงโดย : สุภาพสตรีหมายเลขสิบเอ็ด