นั่งรถไฟเที่ยวปราณบุรี นอนฟังเสียงคลื่นที่ หัวปลี เลซี่ บีช 1 คืน ในวันที่ฝนตกพรำ ๆ
ไม่เจอกันนานครั้งนี้ได้กว่าจะหาวันว่างได้ พอว่างก็ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ เที่ยวสิครับ ช่วงนี้ร่ายกายต้องการทะเล เลยเลือกที่จะเที่ยวปราณบุรีกัน จะรออะไรล่ะ จองที่พักสิ ปราณบุรีมีที่พักสวยๆ มากมาย มีหลากหลายราคา ทริปนี้เราตัดสินใจเลือกที่ “หัวปลี เลซี่ บีช” จอง เสร็จสับก็หาข้อมูลการเดินทาง การเดินทางไปปราณบุรี สามารถเดินทางได้ทั้งรถตู้ รถทัวร์ รถไฟ รถส่วนตัวนี้สะดวกเลย การเดินทางครั้งนี้ไม่รู้คิดอะไร อยากลองเดินทางด้วยรถไฟ เสียงจากพ้องเพื่อน จากการอ่านรีวิวจากหลายๆ เว็บไซต์บอกว่ารถไฟกว่าจะถึงช้าสุดๆ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความอยากรู้ของเราได้ รถไฟนี้แหละช้าก็ช้า คิดซะว่าทริปนี้เป็นการเดินทางแบบหวานเย็นก็แล้วกัน
ก่อนเดินทางได้ยินข่าวร้าย ที่ทำใจไม่ได้คือ กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าจะมีพายุและมีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันที่จะไปเที่ยวกันพอดี ได้ยินข่าวแทบทรุด เพราะเราเตรียมทริปว่าเราจะไปเที่ยวอยู่หลายที่ ทั้งวนอุทยานปราณบุรี ,อุทยานท้าวโกษาหรือเขากะโหลก,เที่ยวบึงบัวที่สามร้อยยอด ฝนตกแบบนี้หมดสนุกแน่ ๆ แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองคิดว่าฝนคงไม่กล้าตกทั้งวันหรอก ทริปนี้ต้องไม่ล้ม จากนั้นเราโทรไปนัดรถสองแถวคุณลุงประชัญให้มารับที่สถานีรถไฟปราณบุรี พร้อมแล้วลุยเลยๆ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
#และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง
4.30 น . ระหว่างที่กำลังหลับอยู่ สะดุ้งตื่นได้ยินเสียงฟ้าร้องและตามมาด้วยเสียงฝน และตกธรรมดาที่ไหน ตกแบบนี้คงจะตกให้น้ำท่วมกรุงเทพไปเลย ตกไปจนถึงตีห้าครึ่งยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุด แต่เมื่อเราเลือกที่จะไปแล้วไม่ต้องกลัวฝนอีกต่อไป รีบอาบน้ำทันที เพราะเราต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี(สถานีรถไฟหลังโรงพยาบาลศิริราช) รอบ 7.30 น. มีรอบเดียวด้วย ต้องรีบแล้ว
มาถึงสถานีรถไฟทันเวลาวันนี้เป็นวันอาทิตย์คนจะเยอะเป็นพิเศษ รีบไปซื้อตั๋ว แล้วไปหาที่นั่งบนรถไฟโดยด่วน ค่ารถไฟคนละ45 บาท เดินทาง 2 คน 90 บาท ประหยัดกันไป
7.45 น. ตามตารางที่รถไฟต้องออกจากสถานี ตรงเวลาดีมาก ไหนเพื่อนๆ บอกว่ารถไฟมาเลทแน่นอน ครั้งนี้ไม่เลทครับโชคดีไป ตามกำหนดการเราจะถึงปราณบุรีตอนเที่ยงครึ่ง รถไฟที่เรานั่งไปปราณบุรี เป็นรถไฟสายธนบุรี-หลังสวน จอดทุกสถานี และสถานีที่เราลงเป็นสถานีลำดับที่ 39 โอ้….หลับยาวๆ เลย
รถบนไฟมีพ่อค้าแม่ค้าเดินขายของอยู่เรื่อย ๆ โอเลี้ยงไหม…..ข้าวกระเพราไหมค่ะ……หมู่ปิ้งร้อนๆ ค่ะ….. มีมากมาย เราว่ามันดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ และดูคึกคักดี มีตลาดแบบเคลื่อนที่อยู่บนรถไฟ
หลับๆ ตื่นๆ ชมวิวข้างทางไปเพลินๆ นั่งนับสถานีกันไป เวลาผ่านไปช้าๆ และแล้วเราก็มาถึงปราณบุรี ดูนาฬิกาเป็นเวลา 12.40 ถือว่าไม่เลทเท่าไร พอรับได้ เพราะตอนแรกคิดว่าน่าจะถึงประมาณบ่ายโมงครึ่งด้วยซ้ำ พอถึงสถานีเราก็โทรหาคุณลุงประชัญให้มารับ ส่วนเจ้าฝนก็ยังตกอยู่ ไม่หยุดสักที และดูแล้วคงตกทั้งวันแน่นอน ทริปที่คิดไว้ว่าจะไปเที่ยวหลายๆ ที่คงอด คงเหลือแค่เดินเล่นๆ ชายหาด และนอนฟังเสียงคลื่นกับที่พักที่จองไว้แล้วแหละ รู้สึกเสียดายกับทริปที่วางไว้มาก ๆ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องรับมัน
จากสถานนีรถไฟถึงพี่พักห่างกันประมาณ 10 กิโล ลุงพามาส่งถึงหน้าที่พักคิด 200 บาท
พอถึงที่พักเราก็รีบไปเช็คอินทันที จากการมองรอบ ๆ ด้วยสายตา ที่นี่บรรยากาศดีมาก ดูเป็นส่วนตัว
เดินทางมาหายชั่วโมงรู้สึกหิวมาก ๆ แต่น่าเสียดายที่พักบริการเฉพาะอาหารเช้า ส่วนมื้อเที่ยง และเย็นต้องออกไปกินข้างนอกหรือไม่ก็โทรสั่ง ทางที่พักมีเบอร์ร้านอาหารให้
มื้อเที่ยงเราเลือกออกไปกินข้างนอกเพราะในใจอยากเดินสำรวจ ที่อยู่ ที่กิน แถวนี้ด้วย ห่างจากพี่พักประมาณ 200 เมตรเห็นร้านอาหารอยู่ 1 ร้าน ชื่อ Pranberry เลยแวะที่ร้านนี้เลย ( Pranberry คุ้นๆ ว่าจะเป็นหนึ่งในที่พักอีกที่หนึ่งของปราณบุรี) เพราะดูทางแล้วไม่อยากวัดใจเดินต่อ เดียวจะยาว หาจุดหมายไม่เจอ
กินเสร็จกลับที่กลับพักทันที ระหว่างทางเดินรู้สึกว่าที่นี่แลดูเงียบๆ ไม่ค่อยเห็นรถสวนไปมาเหมือนชายหาดอื่น นี้ขนาดวันอาทิตย์น่ะ คงเป็นเพราะเจ้าฝนนี้แหละ คนเลยเงียบ หรือไม่คงเป็นเพราะความเป็นส่วนตัวของแถวนี้ทำให้ดูผู้คนไม่พลุกพล่าน
กลับถึงที่พักสำรวจภายในที่พักกันก่อน ที่พักเป็นบ้านติดทะเล เราพักที่ห้องปลาวาฬ แต่ละห้องมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป หน้าห้องมีระเบียงยื่นออกไปทางทะเล หน้าระเบียงมีโต๊ะพร้อมเบาะนั่ง ไว้สั่งอาหาร มานั่งกินๆ มองวิวทะเลก็ได้เลย
ในเมื่อฝนตกอยู่แบบนี้ทั้งวัน จะออกไปไหนไม่ได้ เราก็เก็บบรรยากาศของที่พักนี้แหละ ต้องบอกเลยน่ะว่าชอบความเป็นส่วนตัวของที่นี่มาก มันเงียบสงบเหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อนมาก ๆ
ฝนยังปรอย ๆ ลงมาไม่ขาดสาย ลมก็แรงสุดๆ คลื่นก็แรงใช้ได้ เอาล่ะ ถ่ายรูปเก็บบบรรยากาศที่พักนี้แหละเวิร์คที่สุดแล้ว อย่าฟ้าผ่าลงมาก็พอ
ถ่ายกันไปเกือบร้อยรูป เอาให้คุ้มกันไปเลย
วันนี้ฝนตกตั้งแต่เช้ายันเย็น เราเลยตัดสินใจสั่งอาหารทะเลจากร้านอาหารทะเลข้างนอกมากิน เสียดายมากถ้าฝนไม่ตกจะได้นั่งกินอาหารทะเลแบบชิวๆ หน้าระเบียง แต่ฝนตกแบบนี้ต้องกินในห้องอย่างเดียว (พี่ฝนครับ ! ตกให้น้ำท่วมไปเลยครับ 555 ถ้าจะตั้งแต่เช้ายันมืดแบบนี้ )
เสียงคลื่นจากภายนอกได้ยินเข้ามาถึงในห้อง ดังเพลงกล่อมใจ เป็นจังหวะๆ เพิ่มรสชาติอาหารได้ดียิ่งนัก 5555
ชมบรรยากาศช่วงเช้า ตื่นเช้าๆหน่อยจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหน้าห้องเลย บรรยากาศช่วงเช้าสวยไม่แพงกัน
เวลา 7.00 น. – 10.00 น. เวลาของอาหารเช้ามาแล้ว
ถึงทริปนี้หลายๆ อย่างจะล่มแต่ก็พอใจกับบรรยากาศของที่พักมาก
ขากลับเรามาขึ้นรถสมบัตรทัวร์ที่หัวหิน จริง ๆ สามารถเลือกขึ้นรถตู้ที่แยกปราณบุรีเข้ากรุงเทพได้เลย แต่เราไม่ค่อยชอบนั่งรถตู้เท่าไร เลยเลือกขึ้นมาขึ้นรถทัวร์ที่หิวหิน นั่งนอนสบาย ( เขาว่าที่ปราณบรีมีรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ เหมือนกัน แต่เราไม่อยากเสี่ยง ) อีกอย่างจะบอกว่า ใครจะมาเที่ยวหัวหินแล้วไม่อยากนั่งรถตู้ สามารถนั่งรถทัวร์ของบริษัทสมบัติทัวร์ได้ เบาะกว้าง นั่งนอนได้สบาย มีให้บริการทุกวัน แนะนำให้โทรจองหรือจองผ่านเว็บไซต์ล่วงหน้าหน่อยน่ะเพราะรถอาจเต็มได้
รายละเอียดเพิ่มเติม:
ข้อมูลที่พัก facebook: Huaplee Lazy Beach website : www.huapleelazybeach.com
รถทัวร์บริษัทสมบัติทัวร์ : www.sombattour.com ( สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากไปเที่ยวหัวหินแล้วอยากนั่งรถทัวร์ สามารถสำรองที่นั่งได้เลย )
รถสองแถวปราณบุรี : 089-611-4738 (น้าประชัญ)
