ทริปเที่ยวหัวหินแบบชิวๆกับรถไฟนำเที่ยว ไปเช้าเย็นกลับ ฉบับคนหยุดวันอาทิตย์

ปู๊นๆ ถึงก็ช่างๆ ไม่ถึงก็ช่าง เอ้ย ! ไม่ใช่ ฉึกฉักๆ เวลาเราเดินทางไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สักที่ ส่วนมากแล้วถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็คงจะขับรถกันไปเอง ส่วนคนที่ไม่มีรถส่วนตัวหรือไม่อยากขับรถไปก็คงหาวินรถตู้เพื่อเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ จริงๆ แล้วทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งคือรถไฟ ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อนๆ จะไปสามารถนั่งรถไฟไปได้ ก็อยากชวนเพื่อนๆ มาลองเปลี่ยนบรรยากาศดูครับ ถึงเหมือกัน ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มเติ่มคือเวลา เพราะถ้าเรานั่งรถไฟอาจใช้เวลาเดินทางสักหน่อย แต่ก็สนุกไปอีกแบบ

เอาล่ะวันนี้เราจะพาทุกคนเดินทางไปหัวหิน แบบไปเช้าเย็นกลับด้วยรถไฟไทย ต้องบอกก่อนเลยว่ารถไฟขบวนที่เราใช้เดินทางไปยังหัวหินคือรถไฟนำไปเที่ยว เอาละเมื่อทางรถไฟเที่ยวมีทริปดีๆ แบบนี้ก็ต้องลองสักหน่อย

ก่อนอื่นต้องไปซื้อตั๋วกันก่อน แอบไปซื้อมาก่อนวันเดินทาง กลัวคนเยอะ ค่าโดยสาร ไป-กลับ คนล่ะ 120 บาท  เป็นรถไฟนำเที่ยว กรุงเทพ – สวนสนประดิพัทธ์

      ได้ตั๋วมาแล้วที่เหลือแต่เตรียมความพร้อม ตามกำหนดการรถไฟออกจากสถานทีหัวลำโพงตอน 6.30 น โอ้! ดูเช้าไปมากๆ
       ถึงวันเดินทางเราเดินทางมาถึงหัวลำโพงตอน 6 โมง มาก่อนเวลา 30 นาที เผื่อเวลาเดินหารถ กลัวขึ้นผิดคัน  เดินสำรวจรอบๆ บริเวณชานชาลากันก่อนว่ารถไฟขบวนของเราอยู่ไหน
      เอ้าเจอแล้วนี้ไงชานชาลา 11 รถไฟมาจอรอแล้ว เดินขึ้นหาที่นั่งเลย

การเดินทางครั้งนี้เราเลือกเอารถไฟชั้น 3 ซึ่งเป็นแบบพัดลม แบบชั้น 2 ติดแอร์ก็มีแต่เราไม่เลือกแบบพัดลมเพราะอย่างรับบรรยากาศการเดินทางแบบเต็มๆ เอิ๊กๆ

      ขึ้นไปนั่งได้สักแปป เจ้าหน้าที่รถไฟก็เดินมาบอกว่าให้ทุกคนลงจากรถก่อน เพราะโบกี้แอร์เสียงต้องไปเปลี่ยนต้องนำไปซ่อมหรือเปลี่ยนโบกี้สักอย่าง โอ้วงานนี้มีช้า เพราะตามเวลารถไฟจะถึงหัวหินเวลา 10.30 โดยประมาณ

รอได้สัก 1 ชั่วโมงรถไฟก็วิ่งกลับมาจอดที่ชานลา 11 จากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถพร้อมเดินทาง

ฉึกฉักๆ โอ้ว ! วิ่งเร็วเหมือนกันน่ะเนี่ย ชมบรรยากาศ 2 ขางทางรถไฟไปเรื่อยๆ และแล้วเราก็มาถึงสถานีนครปฐม รถไฟจะจอดที่สถานีนี้เป็นเวลา 40 นาที ให้นัก ท่องเที่ยวที่มากับขบวนรถได้ไปสักการะองค์ปฐมเจดี มาทั้งทีต้องไปกราบองค์ปฐมเจดีกันสักหน่อย

      เดินออกมจากสถานีนครปฐมก็จะเห็นองค์ปฐมเจดีได้อย่างชัดเจน  เราเดินทางไปกราบองค์พระปฐมเจดีกันเลย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ

 
    ถึงแล้ววัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร

วันนี้คนมาทำบุญเยอะพอสมควร

หลังจากที่เราสักการะองค์ปฐมเจดี เรียบร้อยแล้ว ดูเวลาก็ผ่านไป 25 นาทีล่ะ ต้องรีบกลับไปขึ้นรถไฟให้ทันเวลาตามกำหนดการ

ก่อนออกจากวัดต้องเสี่ยงดวกสักใบ เพื่อโป้งป้างโดนรางวัลที่ 1 อิอิ

ระหว่างทางของกินของขายเยอะมาก กองทัพต้องเดินทางด้วยท้อง ต้องซื้อไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทางซะแล้ว  ช่วงนี้ติดเทศกาลกินเจ หันไปทางไหนก็มีแต่เจ เลยจัดบะหมี่เจ ซะเลย ราคาก็ไม่แพงครับ 30 บาท ได้เยอะพอสมควร

กลัวไม่อิมเลยจัดขนมเบื้อง และก็โตเกียวมาอีก

      ขนมจีบห้องเซเวนสักกล้อง อันนี้เพื่อนบอกเวลาอร่อยดี

โอ้ว ! ซื้อเสบียงผมนี้เยอะกว่าชาวบ้านเค้าเลย

รถไฟออกจากสถานนี้นครปฐมตรงเวลา รองชิมบะหมี่เจดู รสชาติก็พอใช้ได้ หรือว่าผมหิว ทุกอย่างก็เลยอร่อยไปหมด ต้องรีบกินครับเพื่อเดียวรถวิ่งเร็วขึ้นเดี๋ยวเส้นกลัวเตี๋ยวจะรอไปโดนหัวคนข้างหลัง

ระหว่างการเดินทางก็ไม่เหงาครับ เพราะมีเพื่อนคุยบนรถเป็นเพื่อนบ้านที่นั่งเบาะตรงข้ามเราเอง พึ่งจะรู้จักกันก็วันนี้แหละ ได้สร้างมิตรภาพระหว่างการเดินทาง รู้สึกชอบมากก……

รถออกไปได้สักพักเจ้าหน้าที่รถไฟก็จะแนะนำแพ็คเกจของฝาก ใครอยากซื้ออะไรไปฝากคนที่บ้านเราทางรถไฟนำเที่ยวจะโทรสักให้ แล้วของที่เราสั่งเค้าจะมาส่งเราบนขบวนรถช่วงเดินทางกลับ  ผมสั่งนำตาลสักกลับไปฝากที่บ้าน 3 ขวด แล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวราชบุรีมา 2 ห่อ มากินกับเพื่อนที่มาด้วยกันช่วงเดินทางกลับเห็นว่าอร่อยนัก จะสมคำล้ำลือรึเปล่า สั่งเสร็จแล้วก็จ่ายเงินเลยครับ

ไปกันต่อครับ ฉึกฉักๆ ผมเริ่มชอบบรรยากาศแบบนี้ละ วิวทั้งสองขางทางสวยดี ทำงานเหนื่อยๆ มาเจอแบบนี้ก็หายเหนื่อยเลย อาจเป็นเพราะวันนี้ฟ้าครึ้ม ทำให้บรรยากาศดี

ถึงแล้วหัวหิน ลงกันเลย เลทไปชั่วโมงนึ่งจากเดิมที่ต้องถึง10.30 กลายเป็น 11.25 เจ้าหน้าที่แจ้งรถไฟจะออกเวลาออกจากหัวหิน เวลา15.39 เท่ากับเรามีเวลาอยู่ที่หัวหินเพียง 4 ชั่วโมง

         เอาละต้องรีบล่ะ อย่างแรกที่เราจะไปก่อนคือ เขาตะเกียบ มีคนบอกว่าอาหารอร่อย เลยต้องไปจัดสักหน่อย
       จากสถานีหัวหินเราดินตรงตามทางจึงถึงทางแยก เพื่อขึ้นรถโดยสารสีเขียวเพื่อเดินทางไปเขาตะเกียบ

นั่งรถประมาณ 15 นาทีก็ถึงเข้าตะเกียบ

        พอถึงแล้วเราก็ไปหาอะไรกินกัน ที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารทะเล อ้อลืมบอกไปว่าที่เขาตะเกียบมีลิง ระวังอย่าถือของกินหรือของมีค่าอยู่ในมือเพราะพวกมันอาจมาดึงของจากมือเราได้ เดินหาร้านอยู่สักพัก ร้านที่ตั้งใจจะมาทานวันนี้ร้านเต็มซ่ะงั้น ไม่รู้จะไปกินร้านไหนดี เลยเลือกซะเลย “ร้านโต้งปูเป็นๆ “
 

มากันแค่สองคน ไม่มีเวลากินชิวๆ ต้องทำเวลาสั่งเท่านี้ก่อน พอเด็กมาเสริฟ โอ้ว! เยอะมากเลย จะกินหมดไหมนี้

         กินเสร็จเช็คบิล เตรียมตัวเดินทางกลับไปยังชายหาดหัวหิน ไปนั่งชิวๆ ริมชายหาดรอเวลารถไฟมารับ  ก่อนไปแวะไปดูชายชายหาดตรงเขาตะเกียบกันหน่อยๆ  บรรยากาศดีมาก อีกอย่างคนคนไม่เยอะ ดูไม่วุ่นวายดี
       เอาละพอหอมปากหอมคอ เราเดินไปขั้นรถโดยสารเพื่อกลับไปยังชาดหาดหัวหินกันดีกว่า
      ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงปากทางเข้าชายหาดหัวหิน เราลงบริเวณสี่แยกไฟแดงใกล้ๆ จุดที่เราขึ้นรถไปเขาตะเกียบ
      ข้ามสี่แยกไฟแดงและเดินตรงไปไม่ไกลก็ถึงทางลงหาดหัวหิน

บรรยากาศทางลงไปยังหาดหัวหิน

สำรวจบริเวณชายหาดกันก่อนเลย

      ที่หาดจะมีแม่ค้าให้เช่าเสื่อไว้ปูนั่งๆ นอนๆ บริเวณริมหาด เราก็ใช้บริการซะเลย
 

วันนี้อากาศจะร้อนนิดหน่อย ตอนแรกเตรียมว่าจะมาแช่น้ำทะเล เลยเปลี่ยนแผนเป็นนั่งชิวแทน

      เดินเล่นบริเวณชายหาดหัวหินสักหน่อย
        นี้แหละเรียกว่าอาบแดด
       ใครจะถ่ายรูปบนหลังม้าเท่ๆ เชิญเลย

นำแดงโซดาที่หาดหัวหินอร่อยมาก อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา คงเป็นเพราะอากาศร้อนสิน่ะ

ถ้าหิวๆ ก็มีสักเมนูคลายร้อนกันได้ กินเสร็จแล้วควรรักษาความสะอาดกันหน่อยน่ะจ๊ะ

อุ้ย! กำลังเพลิน ใกล้บ่ายสามโมงครึ่งแล้ว ต้องรีบถอนตัวจากหาดแล้วล่ะ  ระหว่างทางแวะซื้อของฝากซักหน่อยๆ เดี๋ยวจะมาไม่ถึง

เราเดินทางกลับมายังสถานีรถไฟหัวหิน นั่งรอรถไฟมารับตามเวลา 15.39 น ทีเจ้าหน้าที่แจ้งไว้

รถไฟมาตรงเวลามาก ใครมาทริปนี้ต้องมาให้ตรงเวลาน่ะ ไม่งั้นตกรถแน่

ปู๊นๆ เดินทางกลับกรุงเทพฯ กันเลย… บรรยากาศตอนเย็นมองออกไปนอกหน้าต่างช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก คือบรรยากาศมันดีมาก เจริญหูเจริญตา

        หลับไปสักพัก เอ้าถึงราชบรีแล้ว เจ้าหน้าที่บนรถไฟก็นำของฝากที่เราสั่งไว้มาให้ ก๋วยเตี๋ยวในตำนานอันลือลั่นว่ามาทริปนี้แล้วต้องลอง อร่อย ตามคำล้ำลือ หรือว่าเราเหนื่อยก็ไม่รู้ เอาจริงอร่อยครับ

บนรถไฟมีแก้วน้ำและนำแข็งให้บริการ ระหว่างทางใครอยากซื้อของฝากก็ซื้อได้เลยมีพ่อคนขาย จริงๆ แล้วผมว่านี้เซเว่นบนรถไฟเลยก็ว่าได้ บรรยากาศน่ารักๆ แบบนี้หาไม่ได้น่ะถ้าไม่ได้ขึ้นรถไฟ

        ที่เห็นมีลังใส่ของ มีถุงว่างๆ อยู่นั้นเป็นของฝากที่มีจำหน่ายบนรถน่ะ ใครสนใจเรียกพี่ผู้ชายได้เลย

รถไฟมาถึงกรุงเทพ สถานีหัวลำโพง ประมาณเกือบๆ 2 ทุ่ม ช้ากว่ากำหนดการนิดหน่อย ก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน

ทริปนี้ก็ถือว่าสนุกอีกแบบครับ ได้ทั้งมิตรภาพดีๆ บนรถไฟ บรรยาศน่ารักๆ บนรถไฟที่หาไม่ได้จริงๆ ขึ้นรถตู้ ขั้นรถทัวร์ก็คงไม่ได้เจอแบบนี้ ถึงอาจจะเที่ยวแค่วันเดียวแต่ก็สนุกมาก

สรุปค่าเดินทาง

ค่ารถไฟไปกลับ 120 X 2 = 240 (2คน)

ของฝากบนรถไฟ 120

เสบียงระหว่างทาง 230

อาหารทะเล 770 (ที่ราคานี้เพราะเราสั่งขนาดกันผิด จริงๆ ตามที่เราคำนวณไว้จะน้อยกว่านี้)

เช่าเสื่อ 20

ของฝากที่หาดหัวหิน 280

สรุปใช้จ่ายในการเดินทางไปชิวๆ ที่หัวหินครั้งนี้ อยู่ที 1660 บาท

ถ้าเอาเฉพาะค้าเดินทางอย่างเดียวก็แต่ 240 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นก็อยู่ที่ตัวเราว่าจะกินมากกินน้อยตามงบที่ตั้งไว้