ขันโตกหน้าวัดภูมินทร์ บรรยากาศฟินๆพร้อมแสงสียามค่ำคืน
ลานขันโตกหน้าวัดภูมินทร์ ถือเป็นอีกสีสันหนึ่ง ที่นอกจากความเนิบๆสโลไลฟ์ซึ่งเราสามารถสัมผัสได้ในตัวเมืองน่านแล้ว “ห้ามพลาด” ซึ่งเท่าที่ผมเคยไปยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้ที่จังหวัดอื่นมาก่อน
ก่อนอื่นขอแนะนำคราวๆก่อนว่า วัดภูมินทร์นั้นอยู่ตรงไหนและคือที่ไหน “วัดภูมินทร์” เป็นวัดที่อยู่ในตัวเมืองจังหวัดน่านมีอายุกว่า 400 ปีขึ้นไป(สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2139) มีภาพวาดเป็นเอกลักษณ์มาจากภาพวาด “ปู่ม่านย่าม่าน”กระซิบรักกัน และอุโบสถจตุรมุขซึ่งภายในมีพระประธานหันหน้าออกไปทั้ง 4 ทิศ
บริเวณหน้าอุโบสถวัดภูมินทร์ตอนเย็นๆ
ภายอุโบสถจตุรมุขวัดภูมินทร์ 
ปู่ม่านย่าม่านกระซิบรัก
บริเวณหน้าวัดภูมินทร์ช่วงกลางคืน
ซึ่งก่อนที่จะลงนั่งล้อมวงกินข้าวกับเพื่อนๆ ผมขอแวะไปสถานที่สำคัญใกล้ๆกับวัดภูมินทร์ก่อนดีกว่า นั้นก็คือ วัดพระธาตุช้างค้ำ ที่ความสวยงามไม่แพ้กัน และขอบอกว่าวัดนี้มีอายุมากกว่า 600 ปีนะคร้าบบบ ผมรู้สึกประทับใจมากนะ ที่คนรุ่นก่อนได้อนุรักษ์วัดสวยๆให้พวกเรามาเยี่ยมชมกันถึงในปัจจุบัน
หน้าวัดพระธาตุช้างค้ำ 
ภาพในอุโบสถวัดพระธาุตช้างค้ำ
เมื่อแวะไว้พระเสร็จแล้ว ผมจึงแวะหาของกินต่อซึ่งแถวนั้นจะเป็นตลาดถนนกาดข่วงเมืองน่าน ขายอาหารกันตรึมเลือกเลยอยากกินอะไร กินให้เต็มที่
บรรยากาศตลาดกาดข่วงเมืองน่าน
เมื่อได้อาหารแล้วเราก็ไปหาที่นั่งกัน ซึ่งเราสังเกตุได้ว่า ถ้าตรงไหนว่างคุณจะเห็นแค่ขันโตกเปล่าตั้งไว้เราสามารถเดินเข้าไปจับจองที่นั่งได้เลย ไม่เสียเงิน ที่นี่ไม่จำกัดเวลานั่งนะครับ แต่เราก็ไม่ควรนั่งแช่เหมือนกันทานเสร็จก็แบ่งๆให้คนอื่นนั่งกันบ้างเนอะ
เสื่อสีแดงและขันโตกที่ไม่มีใครจอง
บรรยาศการลานกาดข่วงเมืองน่าน หน้าวัดภูมินทร์
เท่าที่ผมจำได้บริเวณลานขันโตกนี้ ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้านะครับ และเมื่อทานเสร็จก็เก็บเศษอาหารแล้วนำไปทิ้งในบริเวณที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้นะครับ หากใครมีโอกาสลองมานั่งทานข้าวกันนะครับ ส่วนช่วงเวลาที่แนะนำก็คือ ช่วงหน้าหนาว ลมเย็นๆ จะเป้นอะไรที่ฟินมากๆครับ ด้วยรักและเคารพขอบคุณครับ
