รีสอร์ท เดอ พาสคานี่(Resort De Paskani) ที่พักหัวหินที่ใครไปก็ต้องหลงรัก

เมื่อวันหยุดมาถึงและเงินในกระเป๋าพร้อม คงต้องหาที่เที่ยว พักกาย พักใจ ถึงจะเป็นเวลาเพียง 2 วัน 1 คืน ที่แสนสั้น แต่การไปเที่ยวครั้งนี้ต้องเอาให้คุ้มและได้รูปสวยๆ กลับมาให้มากที่สุด ทริปนี้เป็นทริปพักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องลุย เน้นชิวๆสบายๆ นอนพัก ฟังเสียงลมเสียงคลื่น ที่หัวหิน ที่หัวหินที่พัก โรงแรมที่นี้เยอะแยะมากๆ มาย เลือกไม่ถูกเลย แต่ทริปนี้เราเน้นชิวๆ สบายๆ ถ่ายรูปสวย เราจึงเลือกที่พัก Resort De Paskani ที่พักสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน สถาปัตยกรรม Santorini ของกรีซ ซึ่งเน้นโทนสีขาว – ฟ้า

จองที่พักผ่านเว็บไซต์ agoda เรียบร้อยแล้ว ก็เลือกการเดินทาง ทริปนี้เดินทางด้วยรถไฟจ๊า…จองตั๋วรถไฟผ่านเว็บไซต์การรถไฟไทยเป็นรถไฟชั้น 2 ราคา 418 บาท ถึงราคาจะแรงกว่ารถทัวร์แต่ก็อยากนั่งรถไฟชั้น 2 ติดแอร์บ้าง เพราะครั้งก่อนมาที่นี่นั่งแบบร้อนๆ เหงือแตกโซกๆ มาเลย ครั้งเลยนั่งแบบดีๆ มาเลยจะได้ไม่เหนื่อย

ถึงวันเดินทางที่สถานีรถไฟหัวลำโพง รอขึ้นรถไฟรอบเวลา 8.05 น. วันนี้รถไฟมาช้ากว่าเวลาครึ่งชั่วโมง เป็นรถไฟขบวนด่วนพิเศษ ของสายกรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี มี 3 โบกี้ เป็นแอร์ทั้งหมด

รถขบวนนี้มีพักงานต้อนรับ มีของว่าง และอาหารเสริฟให้ทานด้วย จะได้คุ้มกับ 418 บาทหน่อย

ถึงหัวหินประมาณ 12.30 น ช้ากว่ากำหนดไป 1 ชั่วโมง
เดินออกจาสถานีรถไฟ เดินหารถเพื่อไปที่พัก ตอนแรก็คิดว่าจะขึ้นรถโดยสารไปที่พักเนื่องจากที่พักอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก สามารถนั่งรถโดยสารสีเขียว ที่วิ่งไปยังเขาตะเกียบได้เลย แต่ดูท่าฝนจะปรอยๆ ลงมาแล้วเราเลยรีบหารถแท็กซี่แถวนั้นให้เร็วทีสุด ก็ไปเจอรถพี่คนนี้จอดอยู่ ต่อรองราคาได้ที่ 150 บาท ถือว่าพอรับได้ ก็กระโดดขึ้นรถเลย

นั่งรถไม่ถึง 10 นาที ก็ถึง ที่พักอยู่ในซอยตะเกียบ 5 บริเวณด้านหน้าซอยใกล้กับเซเว่นและร้านกาแฟอเมซอน เข้ามาในซอยเจอทางแยก ให้เลี้ยวไปทางขวา แล้วตรงไปเรือยๆ อยู่ก่อนถึงทางลงไปยังทะล เข้าไปเช็คอินกันเลย….พักงานต้อนรับที่้ยิ้มแยม ดูเป็นกันเอง

เช็คอินเสร็จเรียบร้อย เอาของไปเก็บที่ห้องพร้อมเปลี่ยนชุดออกมาถ่ายรูป ทริปนี้มาหน้าฝน ฟ้าก็จะครึ้มๆ ก็จะมีฝนปรอยๆ บ้าง หยุดบ้าง ช่วงนี้ก็จะเป็นแบบนี้แหละ

ห้องที่เราพักเป็นห้องชื่อว่า Pool Access ห้องที่ติดกับสระว่ายน้้ำ ซึ่งเราสามารถลงเล่นน้ำได้จากระเบียงหน้าห้องเลย ภายในห้องสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่น

ที่นี้มีห้อกพักอยู่ประมาณ 6 แบบ
– Deluxe Room Terrace
– Pool Side เป็นห้องพักชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ
– Pool View ห้องพักชั้น 3 ที่มีระเบียงส่วนตัว
– Pool Access ห้องที่ติดกับสระว่ายน้้ำ ซึ่งเราสามารถลงเล่นน้ำได้จากระเบียงหน้าห้องเลย
– Ocean View ห้องพักที่สามารถชมวิวทะเลได้
– Suites ห้องที่อยู่ตรงกลางปลายสุดของสระน้ำ ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศที่พักได้ทั้งหมด และเป็นห้องที่มีอ่างน้ำ

บริเวณที่พักจะมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง สระว่ายน้ำที่ส่วนกลางนี้แหละเป็นอะไรที่ทำให้หลงไหลมาก ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดีๆ ดูสวยไปหมด

ว่างๆ ก็เดินถ่ายรูปรอบๆ บริเวณโซนด้านหน้าเป็นคาเฟ่น่ารัก

เดินออกไปจากรีสอร์ทเล็กน้อยเป็นทางลงไปยังทะเล มาทะเลก็ต้องมาถ่ายรูปกับทะเลด้วย มาทะเลช่วงหน้าฝนนี้ก็เป็นอะไรที่ดีไปอีกแบบ ขออย่างเดียวคือฝนอย่าตกแรงก็พอ ฟ้าครึ้มๆ ตกปรอย ๆ ลมเย็นๆ แบบนี้ชอบ

ตกเย็นเริ่มหิว ไปหาอะไรกินที่ตลาดโต้รุ่ง จะไปยังไงล่ะเย็นแล้ว ก็เรียก grab มารับเลย มาทะเลก็ต้องกินของทะเล จริงๆ เรียก grab ไปส่งที่ร้านอาหารทะเลแถวเขาตะเกียบใกล้กว่า แต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินตลาด หาซื้อของกินของฝากด้วย

เสร็จภารกิจที่ตลาดโต้รุ่ง ก็เรียก grab กลับที่พัก บรรกาศที่พักช่วงเย็นที่สระว่ายน้ำดูสวยเห็นแสงไฟจากสระสะท้อนไปยังกำแพงดูสบายตา เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างความโรแมนติกเลยช่วงนี้เหมาะๆ สุด

1คืน ที่แสนรวดเร็ว วันหยุดกำลังจะหมดไป เวลา 7.00 น. – 10.00 น ถึงเวลาอาหารเช้า อาหารเช้าของที่นี้ก็ถือว่าดีเลย ใครชอบอะไรก็ตักเลยตามสบาย

ทานอาหารเช้าเสร็จไปถ่ายลงทะเลไปถ่ายรูปกันต่อเลย เอาให้เมมโมรี่เต็มไปเลย

และแล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลงแล้ว เช็คเอาท์กลับกรุงเทพ ขากลับเราเรียก Grab มารับไปส่งที่สถานีขนส่งหัวหิน เดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัทสมบัตรทัวร์ ราถา 263 บาท ใช้เวลาในเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงกรุงเทพ

สำหรับทริปนี้แสนจะประทับใจกับ รีสอร์ท เดอพาสคานี่ ตั้งแต่วันเขาพักจนถึงวันกลับ ครั้งหน้าจะแวะเวียนกลับมาเยี่ยมใหม่ ทริปนี้ได้รูปสวยๆ กลับมามากมาย ใช้อัพเฟสบุ๊ค ไอจี ได้ทั้งปีเลย