ชมผาแลภูเขาสีชมพู กับทริปภูบักได-ภูลมโล 3วัน2คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว(EP.1)

ตอนที่ 1 #ภูบักไดไม่ไกลถ้าใจถึง

… วันเดินทาง ของ 6 สาวพวกเรานัดเจอกันที่หมอชิต เพื่อนั่งรถของเพชรประเสริฐทัวร์ รอบ 22.00 น. ไปถึงที่ตลาดภูเรือ เวลาประมาณเกือบ ๆ 6 โมงเช้า  ก่อนจะถึงตลาดภูเรือ เราก็โทรบอกให้รถในหมู่บ้านที่จะพาเราขึ้นภูบักไดออกมารับ สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมข้าวของไป ที่ตลาดเราสามารถซื้อของกินของใช้จำเป็นได้เลยนะคะ

… รอแค่อึดใจเดียว คุณป้าที่ดูแลก็นำรถกระบะมารับพวกเรา ใช้เวลาเดินทางจากตลาดภูเรือประมาณ 15-20 นาที เราก็ถึงบ้านผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเตรียมตัวก่อนจะไปขึ้นภูบักได

 

… เราใช้เวลาเตรียมข้าวของ อาบน้ำ กินข้าวกันพักใหญ่ ๆ แล้วก็เก็บของขึ้นรถอีแต๊ก พร้อมออกเดินทางกันแล้ว Let’s go

… รถอีแต๊กพาเราเดินทางลัดเลาะไปตามเชิงเขา ผ่านสวน ผ่านไร่ของชาวบ้าน ขึ้นเนินลงเนินพอให้เราตื่นเต้น นั่งเพลิน ๆประมาณ 1 ชม. เราก็มาถึงจุดที่ต้องเริ่มเดินเท้ากัน

 

… ทางเดินช่วงที่เราไปถือว่าไม่ลำบากเท่าไร เพราะดินแห้ง  เดินได้เรื่อย ๆ และทางเดินมีทางเดียวไม่หลงแน่นอนค่ะ

… แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเดินเขา หรือว่าไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแบบเรานั้น ถึงทางจะเดินง่าย แต่ก็เหนื่อยเหลือเกินค่ะ

ให้ค่อย ๆ เดินตามที่กำลังตัวเองไหวนะคะ ถ้าเร่งเดินตามคนอื่นจะเหนื่อยเกินไป

 

… น้องป้อมคนนำทางของเราบอกว่ามีจุดที่ให้นั่งพักใหญ่ ๆ ประมาณ 5 จุด แต่สำหรับพวกเราแล้วนั้นใช้สูตร 10 ก้าวพัก 5 นาทีกัน เหนื่อยตรงไหนก็นั่งมันตรงนั้นแหละ 555

 

… พอหายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อ มือขวาหยิบไม้ค้ำ มือซ้ายกำยาดมแล้วก็ลุยต่อโลดดด ^^

… เวลาเหนื่อย ๆ หยุดพักแล้วหันกลับไปมองข้างหลัง วิวที่เราเห็นก็ช่วยให้หายเหนื่อยได้เหมือนกันนะ ฟินมากบอกเลย

 

… เดินหนอ ก้าวหนอ เหนื่อยหนอ จะเป็นลมหนอ นั่งพักหนอ วน ๆ ไปหลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็ขึ้นมาถึงยอดภูกันแล้ว แต่ยังไม่ใช่จุดที่จะกางเต็นท์นะคะ ต้องเดินทางราบอีกประมาณนึง พวกเราจึงพักกินข้าวกันตรงนี้ก่อนเดินทางต่อ ข้าวเที่ยงของเราก็เป็นข้าวเหนียวหมู ไข่เจียว ผักลวก อาหารง่าย ๆ แต่อร่อยล้ำเลยล่ะค่ะเมื่อมากินตรงนี้ ^^

 

… กินข้าว นั่งพักพอหายเหนื่อย ก็เดินกันต่อ ซึ่งต่อไปเป็นทางราบ เดินสบาย ๆ มีวิวสวย ๆ ให้ถ่ายรูปตลอดทางเลย พอถึงตรงลานหญ้ากว้าง ๆ ตรงนี้ เราจะเห็นวิวข้างล่างชัดเจนมาก แล้วก็จะเห็นแสงอาทิตย์ผ่านท้องฟ้าลงมา ของจริงสวยกว่ารูปถ่ายเยอะมาก ๆ เรานั่งเล่นถ่ายรูปกันตรงนี้อีกสักพัก สัญญาณโทรศัพท์ก็มี ยาวไปเลยค่ะจุดนี้ ^^

 

… เมื่อมาถึงข้างบนแล้ว เราจะแอ็คชั่นถ่ายรูปยังไงก็ย่อมได้ จะรำไทเก๊ก หรือจะโพสท่าแบบเดอะเฟส แรงเหลือก็กระโดด แรงหมดก็ชูมือขอพรจากพระเจ้าไปค่ะ 5555+



… นั่งพัก ตากแดด ตากลม  โทรกลับบ้าน ถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คกันให้หนำใจ ทางอีกไม่ไกลเท่าไหร่ ไปค่ะ เดินต่อ พอเดินพ้นกองหินข้างหน้า แล้วเดินอีกนิดนึงก็จะถึงจุดที่เรากางเต็นท์กันแล้วค่า

… แต่กว่าจะถึงจุดกางเต็นท์ได้ ก็แวะถ่ายรูปกันตลอดทางเลย 5555+

… น้องป้อมเดินนำทางมาถึงก่อนเราก็ไม่รอช้าค่ะ รีบจัดแจงกางเต็นท์ให้พวกเราได้พักผ่อนกัน เท่าที่น้องป้อมเล่าให้ฟังคนทั่ว ๆ ไปจะใช้เวลาเดินกันประมาณ 2-3 ชม. แต่ในส่วนของกลุ่มเรานั้น ใช้เวลาไปทั้งหมด 6 ชั่วโมงด้วยกันค่ะ OMG!!

… พอกางเต็นท์ให้เสร็จน้องป้อมก็รีบไปตักน้ำ หาฝืนมาไว้ใช้ค่ะ พวกเราก็ขอนอนงีบ นั่งพักเอาแรงกันสักนิดก่อนจะออกไปถ่ายรูปเล่นกัน โชคดีที่พวกเรามากันวันธรรมดา บนภูบักไดวันนี้จึงมีแค่กลุ่มเรา 6 คนเท่านั้นเองค่ะ ^^ พักกันเพลินไปหน่อยค่ะ กว่าจะได้เดินมาถ่ายรูปกัน ก็เกือบ ๆ ห้าโมงเย็นเลย

… พอตกเย็นแล้ว อากาศบนภูบักไดก็เริ่มหนาวค่ะ ลมพัดแรงด้วย ถ้าใครขี้หนาวเตรียมอุปกรณ์กันหนาวดี ๆ นะคะ

 

… มาค่ะ มาถ่ายรูปบนผาหลอกลวงกันดีกว่า วันนี้มีแค่เรา ถ่ายรูปกันสบายใจเลยค่ะ ไม่ต้องรอคิว ผาหลอกลวงมันไม่สูงก็จริง แต่พอขึ้นไปยืนมันก็จะเห็นวิวข้างล่างทั้งหมด คนกลัวความสูงมันก็รู้สึกหวิว ๆ อยู่นะ แต่พวกเราออกมาถ่ายรูปกันช้าไปหน่อย พระอาทิตย์เลยใกล้จะตกแล้ว แต่ก็ได้รูปแสงแบบนี้มาแทน สวยไปอีกแบบเนอะ ^^


… อ้อ!! หากเพื่อน ๆ อยากเข้าห้องน้ำ ก็ให้มองเข้าไปในป่า ชอบทำเลไหนก็เลือกได้เลย 555+ แต่ทำภารกิจกันเสร็จแล้วอยากรบกวนเพื่อน ๆ ช่วยเก็บขยะลงมาทิ้งกันด้วยน๊า ตอนเราไปนี่ยังมีขยะให้เห็นกันประปราย ถ้าช่วย ๆ กันจะได้มีที่สวย ๆ ให้เที่ยวกันนาน ๆ เนอะ ^^

… พระอาทิตย์ลาลับไปแล้วก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว พวกเรากินกันง่าย ๆ  เตรียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมา บวกกับข้าวเหนียวไก่ย่าง ข้าวหลามจากตลาดภูเรือที่ซื้อมาเมื่อเช้า หรือถ้าใครอยากกินอะไรสามารถสั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ได้นะคะ

… หลังจากอิ่มท้องก็พากันนั่งผิงไฟ ถามนั่นถามนี่น้องป้อมไปเรื่อยเปื่อยอยู่สักพักก็ง่วงกัน ต่างคนต่างเข้าเต็นท์นอน ตอนกลางคืนหนาวจริง ๆ ค่ะ แต่ด้วยความเหนื่อยก็หลับปุ๋ยแถมยังส่งเสียงกรนขับกล่อมเพื่อน ๆ อีก 5555+

… ตัดภาพมาที่ตอนเช้าเลย เรารู้สึกตัวตั้งแต่ตี 4 ค่ะ เพราะว่ามันหนาวมาก หนาวจนตื่น นอนหนาวในเต็นท์อยู่สักพัก น้องป้อมก็ก่อไฟให้เราผิง เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ สมาชิกก็ทยอยตื่นกัน

… พอฟ้าสว่าง ทุกคนตื่นกันครบ ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็พากันไปถ่ายรูปที่ผาหลอกลวงต่อ วันนี้ภูทั้งภูก็ยังเป็นของเรา ไปวันธรรมดามันดีแบบนี้นี่เอง ^^

   

… เดินต่อจากผาหลอกลวงไปอีกหน่อย ก็จะเจอต้นไม้เดียวดาย ที่เรียกแบบนี้เพราะตรงนั้นมีแค่ต้นนี้ต้นเดียวที่ขึ้นค่ะ

  

… จุดตรงนี้ยังมีลานโล่ง ๆ ให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์ได้อีกเยอะค่ะ

 

… ถ่ายรูปเก็บตกกันจนหนำใจแล้วก็เดินกลับมากินข้าวเช้า พวกเราก็ยังเน้นง่าย ๆ เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนเดิม แล้วน้องป้อมก็ทำข้าวจี่ให้กินด้วยค่ะ

 

… กินอิ่มแล้วก็ไม่รอช้า รีบเก็บข้าวของเตรียมตัวลงกันกันเลยดีกว่า เช้านี้อยู่ดี ๆ อากาศก็ไม่หนาวแล้วค่ะ กลัวว่าถ้าสายกว่านี้เดี๋ยวจะร้อนเกินไป แต่ว่า..ตลอดการเดินกลับทางราบพวกเราก็ยังถ่ายรูปกันตลอดทางอยู่ดี 5555

  

… เดินกันมาจนถึงสุดทางราบ พวกเราก็เก็บอุปกรณ์ถ่ายรูปทั้งหมดลงกระเป๋า เพราะน้องป้อมเตือนว่าต้องระมัดระวังมากหน่อย เพราะ 90% ที่มากันก็คือลื่น เจ็บน้อยบ้างมากบ้างประปราย พวกเราเลยตั้งใจเดินลงกันสุด ๆ  แต่สุดท้ายแล้วก็มีลื่นกันคนละนิดละหน่อย เจ็บน้อยก็มี เจ็บมากก็มี แต่ก็ต้องกัดฟันเดินกันต่อ ระหว่างทางเดินลงก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินสวนกันขึ้นมาเรื่อย ๆ วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะค่ะเนื่องจากว่าเป็นวันเสาร์

… น้องป้อมให้คำแนะนำว่าเวลาลงให้หันข้างลงจะทำให้ไม่เกร็งหน้าขา จะได้ไม่ปวดขา ส่วนเทคนิคในการเดินลงทางชันของเราก็คือ นั่งลงกับพื้นแล้วก็เอาก้นไถลงไปค่ะ 555555

… และพวกเราก็ยังคงสไตล์เดิม เดินไปพักไป จากปกติน้องป้อมบอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นิด ๆ แต่พวกเราก็ใช้เวลากันไปทั้งหมด 3 ชม. ในการเดินลง กัดฟันกันลงมาจนถึง เทคนิคที่น้องป้อมแนะนำมาก็ไม่ได้ทำตามค่ะเพราะไม่ถนัด สุดท้ายก็ไม่รอดค่ะ ปวดขาไปตามระเบียบ

… ลงมากันครบก็ไม่รอช้า รีบบอกน้องป้อมพาซิ่งรถอีแต๊กกลับบ้านด่วน อยากอาบน้ำ อยากนอนกลิ้งใจจะขาดแล้ว ^^

… กลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำ กินข้าว นั่งพักกันสักพักนึง ก็ให้รถในชุมชนที่เราติดต่อไว้ไปส่งที่ที่พักอีกที่นึงค่ะ ลาจริง ๆ แล้วนะ เจอกันใหม่โอกาสหน้า บ๊ายบายยยยย ^^

สรุปค่าใช้จ่าย

  • ค่ารถทัวร์ 349 บาท/คน
  • ค่าไกด์นำทาง+รถอีแต๊ก 2,000 บาท/กลุ่ม (สูงสุด 6 คน)
  • ค่ารถรับ-ส่ง จากตลาดภูเรือ-หมู่บ้าน 600 บาท
  • ค่าเช่าเต็นท์+ผ้าห่ม หลังละ 150 บาท นอนได้ 2 คน (เช่าผ้าห่มเพิ่ม ผืนละ 50 บาท)
  • ค่าอาหารเช้า+กลางวัน+น้ำดื่ม (ไม่รวมที่เตรียมไปเอง) 605 บาท (สำหรับ 6 คน)
  • ค่าเหมารถจากหมู่บ้านไปส่งที่พักภูลมโล 1,500 บาท

หมายเหตุ : ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ค่าไกด์นำทาง+รถอีแต๊ก ราคา 2,500 บาทค่ะ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คุณมิ๊ก โทร.086-414-2669 เพจภูบักได ใครๆก็เที่ยว (www.facebook.com/PhuBakDai)

พักแข้งพักขาให้หายเหนื่อยกันก่อน แล้วเจอกันใหม่กับตอนที่ 2 #ภูลมโลสวยแบบ..โอ๊ย!!…โอ๊ยยยย!!… นะคะ ^^

เรียบเรียงโดย : สุภาพสตรีหมายเลขสิบเอ็ด