ทริปนี้ที่ บางสะพาน ที่นี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องดำน้ำ
สวัสดีค่า วันนี้ขอมารีวิวที่ท่องเที่ยวโซนทะเลกันบ้าง ทริปนี้ถ้าหากอยู่กรุงเทพฯ ก็สามารถขับรถไปประมาณ 4 ชั่วโมงโดยใช้เส้นทาง ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี เข้าสู่ตัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วมุ่งสู่อำเภอบางสะพาน ถ้าตาม Google Map มา ค้นหาโดยใช้ชื่อร้านจะง่ายกว่าค่ะทริปนี้พวกเราชาวแก๊งไปกัน 4 คนค่ะ ขับรถไปตอนเช้าถึงรีสอร์ทตอนบ่าย เช็คอินเข้าที่พักซึ่งจองมาจากเว็บเอเจนซี่ เป็นบ้านพักที่ I-Talay Resort (ไอทะเลรีสอร์ท) ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารของทางรีสอร์ทด้วย ร้านไอทะเล ถ้าตาม Google Map มา ค้นหาโดยใช้ชื่อร้านจะง่ายกว่าค่ะ
ที่จริงบางสะพานขึ้นชื่อเรื่องทัวร์ดำน้ำค่ะ ซึ่งปกติแทบทุกรีสอร์ทจะมีดีลกับบริษัททัวร์ต่างๆ เราซื้อคูปองกับทางรีสอร์ทได้เลย หากใครสนใจก็ติดต่อกับรีสอร์ทหรือโรงแรมที่ตัวเองพักได้เลยนะคะ แต่เนื่องจากช่วงที่เราไปเที่ยวมีฝนตกเล็กน้อย เราเลยตกลงกันว่าจะไม่ดำน้ำ เลยไม่ได้ซื้อแพ็กเกจดำน้ำ และอยากลองเที่ยวแบบไม่ตามกระแสดูบ้าง จะพาไปดูที่พักของพวเรากันก่อน
มีโต๊ะ-เก้าอี้ให้นั่งชิลหน้าบ้าน
ข้างในห้องกว้างขวาง เป็นกระจกรูดม่านรอบๆ ถ่ายรูปเล่นนี่แสงสวยมากเลยขอบอก
มีระเบียงให้ตากผ้า
เตียงน่านอนใช่มั้ยล่า
เรามาถึงช่วงบ่ายแก่ๆ เลยเดินเล่น ถ่ายรูปอยู่แถวหาดหน้ารีสอร์ท ออกจากรีสอร์ทก็เจอหาดเลย แค่ 10 ก้าวเอง
เจอเจ้าถิ่นชื่อฮิปโป เลยแอบถ่ายรูปเฮียแกซะหน่อย
พอเริ่มมืดเราก็เริ่มท้องร้องมองหน้ากันเลิ่กลัก ฮ่าๆ ขับรถมาเหนื่อยๆ เลยไม่อยากไปกินที่ไหนไกล ร้านไอทะเลนี่แหละ จัดไปโลด รสจัดจ้านถูกใจ
อิ่มแล้วก็แยกย้ายนอนเอาแรงลุยต่อพรุ่งนี้
ตื่นเช้ามารับลมทะเลดีงามจริงๆ แต่ก่อนจะออกไปเที่ยวตะลอนๆในบางสะพาน กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง พอดีจองที่พักรวมอาหารเช้าด้วย กินอาหารของรีสอร์ทพร้อมวิวสวยๆ เติมพุง เอ๊ย! พลังกันก่อน
อิ่มแล้วก็ป่ะ! ลุย!
“สันทรายบางเบิด”
สันทรายเกิดเองตามธรรมชาติ ข้อมูลของการเกิดสันทรายบางเบิดระบุว่า เกิดจากยกตัวของชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตะกอนในทะเลที่สะสมตัวมายาวนานโผล่ขึ้นมาเกิดเป็นแนวเนินทรายยาว ขณะที่ชายฝั่งบริเวณนี้ที่ตั้งอยู่ในเขตร่องมรสุมพัดผ่านเป็นประจำ จึงเกิดมีกระแสลมแรงพัดผ่านมาอย่างสม่ำเสมอ กอปรกับการที่ด้านหน้าของหาดบางเบิดมีลักษณะเปิดโล่ง รับลม ไม่มีเกาะต่างๆปิดกั้นบังลม และชายหาดมีความลาดชั้นน้อย และทรายที่นี่ยังมีลักษณะพิเศษด้วย คือเบาและละเอียดมาก จนถูกเรียกว่า“ทรายแป้ง” ดังนั้นเมื่อถูกสายลมแรงพัดผ่านก็ลอยปลิวตามกระแสลมมาทับถมกันบนแนวสันตะกอนกินเวลานับเป็นพันๆปี เกิดเป็นสันทรายบางเบิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยขึ้นมา มีพื้นที่กว่า 30 ไร่ สูง 20-30 เมตร ยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ทอดตัวยาวไปตามแนวชายหาดบางเบิด อยู่ในพื้นที่ บ้านบางเบิด ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์)
ทรายเม็ดละเอียดมากเหมือนแป้งค่ะ
แถวนี้สงบ รถผ่านน้อย พอออกมาสักพักเจอถนนที่ต้นไม้โน้มลงมาเป็นเหมือนซุ้มเลยแวะถ่ายรูปกันสนุกสนาน
ไปต่อกันที่วัดบ้างดีกว่า วัดเขาโบสถ์ เรามานมัสการปิดทอง หลวงปู่ท้วม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภอบางสะพาน เห็นเค้าว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ละสังขารแล้วไม่เน่าเปื่อย มีโลงศพของท่านให้ลอด เพื่อเป็นสิริมงคลด้วยค่ะ เราก็อธิษฐานขอพรแล้วลอดโลง แต่ว่าใครที่เป็นประจำเดือนห้ามลอดนะคะ
ออกมาจากวัดก็เที่ยงพอดี เริ่มหิวแล้วสิ เจอร้านอาหารระหว่างทาง เป็นร้านส้มตำ ชื่อ ลาบ-บน-ลาน ไหนลองดูซิ ร้านนี้อร่อยถูกปากเลยค่ะไก่ย่าง ส้มตำ เนื้อย่าง คอหมูย่าง ตบท้ายด้วยไอติม อิ่มไปตามๆกัน
นั่งแช่อยู่ที่ร้านสักพักก็ไปกันต่อ ไปวัดอีกแล้วจ้า แต่วัดนี้ก็ดังมากนะ ไม่อยากให้พลาดกันถ้าใครมาบางสะพาน วัดนี้ชื่อ วัดถ้ำเขาม้าร้อง ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางสะพานไปทางใต้ประมาณ 2 กม. อยู่ในเขต ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นภูเขาหินปูน โพรงหรือเป็นอุโมงค์ และกลายเป็นถ้ำมากมายอยู่ภายใน มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม เมื่อกระทบแสงไฟจะเป็นประกายระยิบระยับ
(ข้อมูลจาก Wikipedia)
สถานที่กว้างขวางรถยนต์สามารถเข้าถึงปากถ้ำได้ ในนั้นมีบ่อน้ำทิพย์ ที่เค้าว่ากันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในถ้ำเองก็กว้างมากค่ะ เดินทะลุเข้าไปได้หลายห้อง มีผู้ดูแลติดไฟฟ้าให้มองเห็นความสวยงามในน้ำ แหงนหน้าขึ้นไปเจอค้างคาวตัวน้อยๆ เกาะอยู่สูงมาก ไม่ลงมาบินรบกวน จริงๆเราไปรบกวนเวลานอนของพวกเค้าต่างหาก ฮ่าๆๆ ตามผนังถ้ำจะมีพระพุทธรูปวางเรียงรายตลอดแนว
มีพระนอนองค์ใหญ่ให้กราบไหว้
บ่อน้ำทิพย์ มีเหรียญที่คนอธิษฐานขอพรแล้วโยนลงไป บางคนก็ตักน้ำเก็บไปบูชาที่บ้านด้วยค่ะ
พอออกจากวัดเราก็เริ่มเหนื่อยกันแล้ว (เหนื่อยง่ายจัง ฮ่าๆๆ) เลยสรุปว่ากลับไปเดินเล่น เล่นน้ำที่รีสอร์ทกันเถอะ
โดดไป 5-6 รอบ ให้หนำใจเลยทีเดียว
ที่โดดขนาดนั้นก็เพื่อรูปนี้
ปล.ไม่ได้ใช้กล้องดำน้ำนะคะ ใช้มือถือใส่ซองกันน้ำสำหรับดำน้ำ ถ่ายชัดใช้ได้เลยค่ะ
โดดน้ำกันจนเหนื่อย อาบน้ำออกไปทางข้าวเย็นกันดีกว่า วันนี้เราก็ไปร้านที่อยู่ไม่ไกลรีสอร์ท ตามแอพรีวิวไปเลยเจอ อาหารอร่อย ดีงามไปอีก ^ ^
กินข้าวเสร็จ นิ่งชิวๆ จิบน้ำ กินขนม (ยังกินต่อได้อีกนะ) อยู่ที่หน้าที่พัก เงียบสงบ อากาศก็ดี เสร็จแล้วเราก็แยกย้ายกันไปนอน
ตื่นเช้ามาหลังทานมื้อเช้าที่โรงแรมเราก็ออกเดินทางกลับเข้ากรุงเทพ ก่อนกลับไม่ลืมแวะไหว้พระ ที่ พระบรมธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ วัดทางสาย บ้านกรูด ประจวบคีรีขันธ์ พอเข้าไปถึงหน้าวัดจะมีพระองค์ใหญ่อยู่ด้านหน้า คือพระพุทธกิติสิริชัย เราก็ไปปิดทอง และตีระฆังรอบๆพระพุทธรูป
จากนั้นเราก็เดินขึ้นไปที่พระบรมธาตุเจดีย์ฯ สวยงามมากค่ะ
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ : พระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ มีความสวยงามและวิจิตรตระการตาตามแบบศิลปะไทยแท้อันหาดูได้ยากยิ่ง ซึ่งคณะสงฆ์และพสกนิกร ผู้จงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ รัชกาลที่ 9 ได้ประกาศความภักดี โดยร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ ๕๐
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระกรุณาให้ ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี นายช่างสถาปนิกประจำสำนักพระราชวังออกแบบ ท่านผู้นี้มีเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมไทย พระมหาธาตุเจดีภักดีประกาศทรงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมไทยอันยอดเยี่ยม โดยฝีมือการออกแบบ และก่อสร้างอย่างวิจิตรบรรจงเป็นที่สุด มีความสูง ๕๐ เมตร กว้าง ๕๐ เมตรและยาว ๕๐ เมตร เป็นความหมายถึงระยะเวลา ๕๐ ปี ที่ครองราชย์มานั่นเอง
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ รูปลักษณ์ เป็นอาคารชุดหลังเดียวขนาดใหญ่ในเนื้อที่กว่า ๓ไร่ ประกอบด้วยหมู่เจดีย์ ๙ องค์ มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุวางในบุษบก ซึ่งอยู่ภายใต้โดม โดยมีเจดีย์รายล้อมอยู่ ๔ ทิศ ๘ องค์ ซึ่งเจดีย์ทั้ง ๘ องค์ออกแบบเป็นเจดีย์ทรงลังกา สำหรับตัวอาคารเป็นตึกสถาปัตยกรรมครบถ้วน ทั้งประตูและเสา ตลอดจนเครื่องตกแต่งภายในทั้งหมด
แนวคิดการก่อสร้างเป็นแบบใหม่เป็นการวัดไทยโดยร่วมเอาโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญมารวมอยู่ในตึกเดียวกันในแนวตั้ง อีกทั้งภายในอาคารยังมีพระพุทธรูปปางงดงาม ๓๗ องค์ ที่เลือกสรรแล้วจากทั่วประเทศสร้างใหม่มารวมไว้
(ข้อมูลจาก วัดทางสาย.คอม)
จริงๆแล้ว ที่นี่สวยมากค่ะ ทั้งบรรยากาศรอบๆ ตัวพระบรมธาตุเจดีย์ แต่เราถ่ายรูปมาไม่มดเพราะรีบกลับ ถ้าค้นดูในเว็บจะตื่นตาตื่นใจมาก แนะนำว่าต้องไปจริงๆ
สำหรับเราเที่ยว 2 วัน 2 คืนนี้ถือว่าคุ้มมากๆ ทะเลสวย เงียบสงบ เหมาะกับคนที่ชอบพักผ่อน ชิวๆ ไหว้พระ เราได้มุมมองใหม่ๆของบางสะพาน ที่ต่างจากการมุ่งหน้าไปดำน้ำ ดูปะการัง แต่คราวหน้า ถ้าไปอีกเราก็กะว่าจะหาโอกาสไปดำน้ำที่นี่ด้วยถ้าฟ้าฝนเป็นใจ ใครไปแล้วเป็นยังไงไปเที่ยวที่ไหน มาเล่าให้เราฟังบ้างนะคะ สำหรับทริปนี้ขอลากันไปก่อน เจอกันทริปหน้าค่ะ