ทริปเที่ยว แพ 500 ไร่ ที่เขื่อนรัชชประภา กับคนรู้ใจใช่เลย
เขื่อนรัชชประภาดูเหมือนจะเป็นสถานที่พักผ่อนที่น่า ไปนอนชิวๆ กินลม ชมวิว ว่าแต่ที่พักที่นั้นก็มีหลายที่จะไปพักพี่ไหนดีล่ะ วันนี้เรามีทริปเที่ยวที่รีวิวจากเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ของสมาชิก คู่เลิฟ เติมรัก ที่ได้รีวิวทริปเที่ยวแพ 500 ไร่ ของเขื่อนรัชชประภา มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร
ทริปนี้เราสองคนตื่นเต้นก่อนเดินทางกันเป็นเดือนเลยทีเดียว จนถึงวันที่ต้องเดินทาง เย้ๆๆๆๆ เย้ๆๆๆๆ เช้าแล้วๆๆๆ รออะไรค่ะ ออกเดินทางจากถึงไปสนามบินดอนเมืองเวลาประมาณ 6.00 น ท้องฟ้ายังไม่สว่างเลย
เช็คอินเรียบร้อย เข้าไปตรวจกระเป๋าดีก่า เสร็จแล้ว รีบเข้าไปหาที่นั่งรอที่เกรท 31 เพื่อรอเวลาเดินทาง ต้องบอกก่อนเลยว่าทริปนี้ตื่นเต้นสุดๆๆ เพราะทริปนี้จองข้ามปีกันเลยทีเดียว จากงานไทยเที่ยวไทย นั่งถ่ายรูปกันซักพักพนักงานก็เรียกให้ขึ้นเครื่องเพื่อเตรียมเดินทาง พอนั่งที่ได้เท่านั้นแหระค่ะ ของีบพักสายตาสักพักแล้วกันนะตื่นเช้าไปหน่อย ค่อยตื่นอีกทีตอนถึงสนามบินสุราษธานีแล้ว
ถึงแล้วสนามบินสุราษธานี พอลงเครื่องมาแล้วก็มีเจ้าหน้าที่ของของรีสอร์ทมายืนถือป้ายรอรับ เพื่อไปขึ้นรถตู้ ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางประมาณ 10 คน เป็นของรีสอร์ทเดียวกัน แต่แยกกันไปคนละที่ เมื่อจำนวนครบแล้ว รถตู้ก็มุ่งหน้าพาพวกเราไปลงเรือค่ะ แต่ระหว่างทางก็แวะลงทะเบียนของทางรีสอร์ทก่อน จากนั้นก็พาเราไปแวะไปเก็บภาพที่เขื่อนรัชชประภาประมาณสักครึ่งชัวโมงได้ อากาศกำลังสบายๆๆ ไม่ร้อนมาก เก็บภาพจนจุใจแล้วไปนั่งรอเพื่อนๆคนอื่นบนรถตู้แล้วกัน ทุกคนก็ต่างทยอยขึ้นรถตู้มาตามๆกันจนครบ ออกเดินทางต่อ ทีนี้มุ้งหน้าไปขึ้นเรือแล้วค่ะ
ถึงท่าเรือ รถเยอะ จอแจนิดหน่อยรีบเก็บสัมภาระลงจากรถแล้วเดินไปนิดหน่อยก็จะมีน้องๆพนักงานของทางแพ 500 ไร่ มาแจกคิวขึ้นเรือต่อ รอสัก 15 นาทีได้ ได้เวลาลงเรือเพื่อไปแพ 500 ไร่แล้ว
ตอนเรือออก แอบกลัวนิดหน่อย คิดเยอะไปหมด เรือก็แล่นไปเรื่อยๆๆ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชัวโมงกว่าๆ เพราะแวะให้เราถ่ายรูปตลอดทาง ตามเขาต่างๆ จำได้แค่ “ เขาสามเกลอ ” ขออภัยที่จำได้ไม่หมดเพราะมัวแต่เวียนหัวเมาเรือซะงั้น
จะบอกว่าเรือแล่นไปแม่น้ำนี่เป็นสีเขียวมรกตสวยงามมากเลยทีเดียว มองไปทางไหนสุดลูกหูลูกตามีแต่แม่น้ำกับภูเขาไปบรรยากาศอีกแบบ
อดทนอีกนิด เห็นรีสอร์ทอยู่ไกลๆ น่าจะใช้จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ แค่เห็นก็ตื่นเต้นแล้วอะ
เรือจอดสนิท ไม่รอช้ารีบติดต่อรับกุญแจเข้าห้อง สำรวจ แต่สำรวจรอบบี้ก่อนสักพัก ที่นี่มีมุมน่ารักๆ ไว้ให้เก็บภาพอยู่หลายที่อยู่นะค่ะ
จุดไฮไลท์ คงเป็นช่องตรงกลางล๊อบบี้ เป็นทางเดินข้ามเล็กๆๆ แต่ด้านล่างเต็มไปด้วยปลาเยอะแยะเต็มไปหมด เราเดินไปซื้ออาหารปลาที่เค้าเตอร์มา 1 ถุง พออาหารลงไปเท่านั้นแหระ อื้อออออ โดนกันสูงเชียว เพราะน้ำที่นี่ใส ใสเหมือนมรกต จนเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ด่านล่าง น้ำใสกิ๊ก จนอยากลงไปแหวกว่ายแบบฝูงปลาพวกนี้บ้าง 5555+
ได้เวลาเข้าที่พัก …………. โอ้ยยยยยยย อยากจะบอกว่า “สวยงามมากค่ะ ทั้งบรรยากาศ ทั้งห้องพัก” ฟินนนน
ส่วนทางรีสอร์ทได้จัดเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้เราแล้วที่ห้องอาหาร ท้องเริ่มร้องละ สมกับการรอคอยมามื้อเที่ยงแห่ง 500 ไร่ อาหารเยอะจริงๆ หลากหลายเมนู เรากินกัน 2 คน ไม่หมด อร่อยทุกอย่างเลย
= จะบอกว่า ที่นี่ สัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีนะค่ะ =
คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติ พักผ่อน ชาร์ตแบตเต็มที่แน่นอนค่ะ 5 โมงเย็นได้เวลาของเราแล้วค่ะ ที่แพมีกิจกรรมให้เล่นหลายอย่าง สิ่งแรกที่เราเลือกคือ พายเรือคยัค พายออกจากหน้ารีสอร์ทได้ไม่ไกลมากถึงกับหอบกันเลยทีเดียว อีกอย่างเราแอบกลัวน้ำอีกแล้ว ทีนี่บอกคนพายให้พายกลับรีสอร์ทได้แล้ว อ้างไปค่ะ เหนื่อยแล้ว อย่าให้เค้ารู้ว่าเรากลัว 555555+
เราสองคนเล่นน้ำกันจนค่ำ จนใกล้เวลามื้อค่ำพอดี อาหารค่ำที่นี่ก็ไม่ต่างจากมื้อกลางวันนะค่ะ อลังการงานสร้างอีกแล้ว กินกกันสองคนแทบไม่หมด ใช้เวลากับมื้อค่ำนานมา แฟนบอกเสียดาย กินให้หมด เก็บภาพไม่ทันนะค่ะ ต่างคนต่างหิว
ค่ำคืนของที่นี่ช่างโรแมนติกเหลือเกินค่ะ ท้องฟ้ามีแต่ดาว เสียงโทรศัพท์โทรเรื่องงานก็ไม่มีให้ต้องปวดหัว พักผ่อนเอนกายจากการเหนื่อยล้ามาทั้งวัน เพื่อรอเช้าวันใหม่ ช่วงเช้าที่นี่ เวลาประมาณ 6.30 น. มีเรือรับพวกเราออกไป ชมธรรมชาติ ชมนก สัมผัสหมอก แต่เราสองคนรีบกันจนลืมหยิบกล้องมาเก็บบรรยากาศช่วงเช้าไว้ให้ทุกคนได้ชมกัน แต่จะบอกว่า ธรรมชาติแบบนี้หาชมกันได้ยากมากๆนะค่ะ ใครที่กำลังลังเลอยู่ อย่ารอช้าค่ะ ต้องมาสักครั้งนึง มาชาร์ตพลังงงานให้เต็มที่แล้วกลับไปสู้ชีวิตกันต่อในเมืองนะค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ หากผิดพลาดหรือตกหล่นสิ่งใดไป เราต้องขออภัยด้วยนะค่ะ