สังขละบุรี เมืองต้องมนต์เสน่ห์แห่งกาญจนบุรี

     สังขละบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเที่ยวกัน ถือได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีมนต์เสน่ห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางกันไปมากมาย 

สังขละบุรีเป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 215 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางนี้ตัดผ่านภูเขาเลียบทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพทะเลสาบที่งดงาม ตัวอำเภอสังขละบุรีตั้งอยู่บริเวณที่ลำน้ำสามสายมาบรรจบกันอันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบีคลี่ และห้วยรันตี รวมเรียกว่า “สามประสบ” ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย อำเภอสังขละบุรีเป็นอำเภอที่มีชาวมอญตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถพบเห็นวิถีชีวิตประเพณีเก่าแก่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ ณ ที่แห่งนี้

เรามาดูกันดีเลยว่าสังขละบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหน ที่น่าไปเที่ยวกันบ้าง

#1 เมืองบาดาล

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

       เมืองบาดาล ในอดีตเป็นวัดเก่าของหลวงพ่ออุตตมะ หรือพระครูอุดมสังวรเถระ ที่ชาวบ้านในอำเภอสังขละบุรีให้ความนับถือเป็นอย่างมาก โดยตัววัดถูกน้ำเข้าท่วมในช่วงที่สร้างเขื่อน ทำให้จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยในช่วงน้ำลดจะสามารถสังเกตเห็นตัวโบสถ์ของวัดได้อย่างชัดเจน แต่ในช่วงน้ำขึ้นน้ำจะท่วมสูงเกือบทั้งหมดเหลือเพียงยอดของโบสถ์ให้เห็นเท่านั้น

 

#2 โบสถ์วัดสมเด็จเก่า

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

เอา Unseen สังขละบุรี เมืองกาญ มาฝากอีกหนึ่งที่ โบสถ์วัดสมเด็จเก่า อยู่บนเนินเขาเลยวัดจมน้ำมาเล็กน้อย เป็นโบสถ์หลังแรกของวัดสมเด็จก่อนที่จะอพยพหนีน้ำเหมือนวัดหลวงพ่ออุตมะ ต้องนั้งเรือไปแล้วเดินเท้าต่ออีกนิดหน่อย หน้าน้ำจะสามารถเอาเรือไปจอดตีนเขาได้เลย แต่หน้าแล้งไม่นิยมเที่ยวเพราะจะต้องเดินไกล นั่งเรือไปทางวัดใต้น้ำ (เมืองบาดาล) จะอยู่ตรงเขาทางซ้ายมือนั้นค่ะ เลยวัดจมน้ำไปนิด บอกคนขับเรือว่าไป วัดสมเด็จเก่า เพิ่มค่าโดยสารอีกนิดหน่อย สามารถขึ้นเรือได้ที่สะพานมอญนะค่ะ

 

#3  วัดวังก์วิเวการาม

ภาพจาก http://pantip.com/topic/30690633

          อยู่เลยจากตัวอำเภอสังขละบุรีไปประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นวัดจำพรรษาของ “หลวงพ่ออุตตมะ” ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งชาวกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ภายในวิหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อขาว จากวัดวังก์วิเวการามแยกไปอีก 1 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยา มีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร บริเวณใกล้เจดีย์มีร้านจำหน่ายสินค้าจากพม่าหลายร้านจำพวกผ้า แป้งพม่า เครื่องไม้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีการจัดงานคล้ายวันเกิดหลวงพ่ออุตตมะ ในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วยพิธีกรรมทางศาสนา การแข่งขันชกมวยคาดเชือก การแสดงของชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่นเช่น การรำแบบมอญ การรำตงของชาวกะเหรี่ยง และในงานประชาชนจะพร้อมใจกันแต่งกายตามแบบวัฒนธรรมของชาวไทยรามัญ และจัดเตรียมสำรับอาหารทูนบนศีรษะไปถวายพระสงฆ์ที่วัด

 

 #4 เจดีย์พุทธคยา

 
ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/
 
ภาพจากhttp://pantip.com/topic/30690633

         หลวงพ่ออุตตามะ ได้สร้าง เจดีย์พุทธคยา จำลองขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้า ที่ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร ไว้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชน เจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตุบริเวณใกล้กับเจดีย์พุทธคยา จำลอง มีร้านจำหน่ายสินค้าจากพม่าหลายร้านจำพวกเครื่องประดับ ผ้า แป้งพม่า เครื่องไม้ จากวัดวังก์วิเวการามแยกไปอีก 1 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยา บริเวณใกล้เจดีย์มีร้านจำหน่ายสินค้าจากพม่าหลายร้านจำพวกผ้า แป้งพม่า เครื่องไม้ ราคาย่อมเยา

 

#5  สะพานมอญ

 ภาพจาก http://pantip.com/topic/30690633

          อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ที่สวยงามสามารถมองเห็นลำห้วยสายต่างๆ คือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตี ที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ

#6 แพลูกบวบ
 

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

         แถมพิเศษ อัพเดตใหม่ สะพานลูกบวบ หลังจากที่สะพานมอญชำรุดเพราะโดนน้ำป่าเมื่อวันที่ 28 กค 56 ที่ผ่านมา ตอนนี้ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมาใช้ชั่วคราว ก่อนที่จะมีการซ่อมแซมสะพานไม้ในฤดูร้อนปีหน้า ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมแรงร่วมใจที่ชาวบ้านสร้างใช้ชั่วคราว … และพลังความศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ.

 
#7   จุดชมทิวทัศน์ เทศบาลตำบลวังกะ

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

        จุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำซองกาเลีย พาดผ่านด้วยสะพานไม้ที่ทอดยาว และวิถีชีวิตริมน้ำชาวสังขละบุรี

 

#8  น้ำตกเกริงกะเวีย 

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

        เป็นน้ำตกหินปูนขนาดเล็กที่สวยงาม สูงประมณ 5 เมตร ตั้งอยู่ริมถนนสายทองผาภูมิ-สังขละ ห่างจาก อ.ทองผาภูมิ ประมาณ 32 กม. อยู่กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อยู่ติดถนนเยื้องกับทางเข้าน้ำตกไดช่องถ่อง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีความสาวยงาม และจุดนี้ท่านสามารถพักรถ เข้าสุขา และเป็นจุดรับประทานอาหารได้

 

#9   น้ำตกกระเต็งเจ็ง


ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

        อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร มีชั้นน้ำตกถึง 23 ชั้น แต่ละชั้นมีความงามแตกต่างกันออกไป เหมาะกับการทัศนศึกษาดูสภาพป่าชนิดต่าง ๆ เช่น ป่ากล้วย ป่าไผ่ ป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ และมีต้นไม้ขนาด 13 คนโอบ โดยเฉพาะชั้นที่ 16 นั้น มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก การไปชมน้ำตกกะเต็งเจ็ง จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกชั้นแรก นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายผ่านสายน้ำขึ้นไปตามชั้นต่างๆ จนถึงชั้นบนสุด ด้านบนของน้ำตกจะมีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมได้ เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางกลับโดยไม่ใช้ทางเดิม แต่เปลี่ยนเป็นเส้นทางเดินป่า ที่ยังมีสภาพป่าดิบอันสมบูรณ์ ระหว่างทางจะผ่านดงเฟิร์นที่กว้างใหญ่ตระการตา ผ่านป่าระกำ ลิ้นจี่ป่าและมะไฟป่า ตลอดทางเดินจะได้ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังก้องอยู่ในป่าตลอดเวลา น้ำตกนี้ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางในฤดูฝน และควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางของอุทยานฯ ในเขตอุทยานฯ มีบ้านพักและสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ อัตราค่าเข้าชมอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม (ป้อมปี่) โทร. 0 3453 2099, 0 6131 3443 และที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตบางเขน โทร. 0 2562 0760 วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น. หรือที่เว็บไซต์ http://www.dnp.go.th/

        การเดินทาง รถโดยสารประจำทางสายกาญจนบุรี-สังขละบุรี ตั้งแต่เวลา 16.00-10.30 น. และ 11.00-12.00 น. รถตู้โดยสาร สายกาญจนบุรี-สังขละบุรี โดยออกจากสถานีขนส่งทุกชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 07.00-16.30 น.

#10  ด่านเจดีย์สามองค์

 
ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

         เขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 โดยก่อนถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกด้านขวาไปด่านเจดีย์สามองค์ เป็นระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร เส้นทางลาดยางตลอดสาย พระเจดีย์สามองค์นี้เดิมเรียกว่า หินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไปก่อนเดินทางออกจากเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดนพม่า ต่อมาในปี พ.ศ. 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีได้เป็นผู้นำชาวบ้านก่อสร้างเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ดังที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้ด่านเจดีย์สามองค์ยังเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญของไทยและพม่าในอดีต บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ มีร้านขายสินค้าจากประเทศพม่า นักท่องเที่ยวสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชมตลาดพญาตองซู ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่มีการจำหน่ายสินค้าของพม่า โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าผ่านด่าน (ฝั่งประเทศพม่า) ชาวไทย 25 บาท ชาวต่างประเทศ 10 เหรียญสหรัฐ รถยนต์ คันละ 50 บาท ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ด่านตรวจคนเข้ามืองสังขละบุรี โทร. 0 3459 0105, 0 3459 5335

#11   ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

         ขึ้นอยู่กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ใกล้กับน้ำตกไดช่องถ่อง ห่างจากอำเภอกาญจนบุรีประมาณ 173 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก จะมองเห็นสายน้ำแผ่กระจายไหลมาจากหลายทิศทาง เหมาะสำหรับเป็นจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางไปอำเภอสังขละบุรี สามารถนั่งรถโดยสารสายกาญจนบุรี-สังขละบุรี จากตัวเมืองมาได้ ค่าโดยสาร 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

 

#12   น้ำตกไดช่องถ่อง


ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

         ขึ้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 500 เมตร และต้องเดินเท้าไปอีก 600 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลงสู่ทะเลสาบเขื่อนแม่กลอง สภาพป่าสมบูรณ์ร่มรื่นสวยงามมากในช่วงฤดูฝน

 

#13  น้ำตกตะเคียนทอง


ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

         เป็นน้ำตกที่ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งกั้นแนวเขตชายแดนไทย-พม่าในเขตอำเภอสังขละบุรี ตัวน้ำตกมีต้นน้ำอยู่ในเขตประเทศพม่า ไหลเลาะเรื่อยมาตามแนวเขา ที่กั้นเขตแดนสู่ประเทศไทยที่ห้วยซองกาเลีย จากความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เส้นทางเดินสู่ตัวน้ำตกชั้นแรกใช้เวลาประมาณ 30 นาที เป็นทางราบปกคลุมด้วยดงไผ่ หวาย เฟิร์น และไม้ใหญ่ยืนต้นนานาพันธุ์ บางช่วงลัดเลาะลำธารน้ำ บางช่วงจะเห็นสายน้ำไหลมาจากหลายทิศทางกระจายออกไปเป็นแอ่งน้ำหรือลานกว้าง ซึ่งน้ำตกในแต่ละชั้นมีความงดงามแปลกตากันออกไป

 

#14  อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 


ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi

        ห่างจากตัวเมืองประมาณ 180 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ – สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 39 – 40 ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร พื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี ป่าเขา และอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขาแหลม) เป็นต้น มีพื้นที่ประมาณ 815 ตารางกิโลเมตร บริเวณอุทยานฯ ร่มรื่น มีห้วยกระเต็งเจ็งไหลผ่าน สามารถกางเต็นท์พักแรมได้

#15   จุดชมวิวป้อมปี่

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

         กางเต๊นท์เล่นน้ำ เป็นทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งท่านจะต้องผ่าน จุดกางเต็นท์เล่นน้ำ ณ สถานที่นี้ท่านสามารถเล่นน้ำได้ตลอดฤดูกาล

อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2 กิโลเมตร ลักษณะทั่วไป เป็นพื้นที่อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมความงามของพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อีกด้วย และมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 4 หลัง และจุดกางเต็นท์บนสนามหญ้าอันอ่อนนุ่ม นอกจากนี้ยังจะพบเห็นนกบางชนิด เช่น นกเหงือก นกกระเต็นอกขาว เขียวก้านตองปีกฟ้า ฯลฯ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ กางเต็นท์พักแรม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ สามารถเล่นน้ำ พายเรือ นั่งเรือชื่นชมความสวยงามของอ่างเก็บน้ำได้ การเดินทางเข้าถึง จาก จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางตามถนนหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 40 – 41 มีทางแยกเลี้ยวซ้าย มีป้ายบอกหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติป้อมปี่ เข้าไปอีกประมาณ 1.3 กิโลเมตร

จุดชมวิวป้อมปี่ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ – สังขละบุรี) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 40-41 เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น และสวยงาม ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำ ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก มีสนามหญ้าอ่อนนุ่ม สำหรับกางเต็นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่นบ้านพัก แพพัก ร้านอาหาร ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ไว้บริการนักท่องเที่ยว

 

#16  เขาหัวโล้น อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

ภาพจาก www.facebook.com/Sangkhlaburi/

ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลมเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีความสูงประมาณ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นทัศนียภาพความงามของผืนป่า วิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ และเกาะแก่งต่าง ๆ รวมทั้งยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และตก ได้สวยงาม นอกจากวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมส่องสัตว์ ดูนก ได้อีกด้วย

เขาโล้นอยู่ในเขต อช.เขาแหลม อ.สังขละบุรี อยู่ก่อนถึง อ.สังขละบุรี ประมาณ 30 กม. ทางขึ้นอยู่บริเวณบ้านเรด้าห์ครับ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ เรดาร์ตรวจทางอุทกศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของเรดาร์ทหาร

สำหรับใครที่ต้องการกางเต้นท์พักแรมข้างบน ในปัจจุบันไม่อนุญาติให้ข้างแรมได้ ต้องพักที่อุทยานแห่งชาติ เขาแหลม และสามารถขับรถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ได้เท่านั้นค่ะ เป็นถนนลาดยางอย่างดี โดยขออนุญาติหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0892287612 หรือมาที่ทำการอุทยานแห่ง ชาติเขาแหลมค่ะ

      การเดินทางเขาหัวโล้น ใช้เส้นทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยอยู่เลยจากจุดชมวิวป้อมปี๋มาเล็กน้อย ขับไปเรื่อยๆจะพบที่ตั้ง สำนักงานก่อสร้างสถานนีเรดาร์ และจะมีถนนเส้นเล็กๆ ตัดผ่านแยกออกไป เนื่องจากยังไม่มีทำป้ายบอก ชัดเจน อาจแวะถามชาวบ้านหรืเอเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้ ทางขึ้นจะเป็นถนนราดยางอย่างดี เส้นทาง ชันคดเคี้ยว รถทุกประเภทสามารถขึ้นได้

 

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่
      สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0-3451-1778, 0-3151-2399
ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี โทร 0-3451 2410, 0-3451 4756

ขอบคุณข้อมูลจาก
      travel.kapook.com/view642.html
www.kanchanaburi.go.th/au/travel/ampur_sangkhlaburi.php
www.facebook.com/Sangkhlaburi